12 เทคนิคที่เจ้าของร้านหมูกระทะควรรู้
การทำหมูกระทะเป็นศิลปะการทำอาหารที่ต้องใช้เทคนิคและเคล็ดลับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นี่คือเทคนิคและเคล็ดลับในการทำหมูกระทะ:
- เตรียมอาหารที่เหมาะสม: เลือกเนื้อหมูที่มีคุณภาพดีและเหนียวนุ่ม เลือกวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ผัก อาหารทะเล หรือเส้นให้เข้ากับเมนูของคุณ
- เนื้อหมู:เลือกชนิดเนื้อหมูที่ต้องการ, เช่น เนื้อหน้าท้องหรือเนื้อหลัง. หมูสามารถหั่นเป็นชิ้นหรือเป็นลายตามความชอบ
- การหมักเนื้อ หมักหมู : นำชิ้นหมูหรือเนื้อหมูที่เตรียมไว้ลงในชามที่ผสมเครื่องปรุงแล้ว และทาเครื่องปรุงให้ทั่วทั้งหมู.
- ตั้งกระทะให้ร้อนสุด: ตั้งกระทะให้ร้อนสุดก่อนการปรุง การตั้งกระทะให้ร้อนมากช่วยให้เนื้อหมูสามารถย่างหรือย่างได้อย่างรวดเร็วและได้รสชาติที่ดี
- ใช้น้ำมันหรือไข่ไก่เบท: ก่อนที่จะวางเนื้อหมูลงบนกระทะให้ทาน้ำมันหรือไข่ไก่เบทบนพื้นผิวกระทะ เพื่อป้องกันอาหารติดและช่วยให้เนื้อไม่แห้ง
- ไม่ควรกลับกลับเนื้อบ่อยเกินไป: เมื่อวางเนื้อลงบนกระทะแล้ว ไม่ควรกลับกลับเนื้อบ่อยเกินไป เพื่อให้เนื้อได้รับความอิ่มตัวและสีที่สวยงาม
- การประมาณเวลาการทำอาหาร: เทคนิคสำคัญคือการรู้จักประมาณเวลาที่เหมาะสมในการย่างหรือย่างเนื้อแต่ละชนิด เนื้อหมูย่างหรือย่างเป็นเวลาสั้นกว่าเนื้อหมูที่หนาขึ้น
- การเคลื่อนย้ายอาหารในกระทะ: ในการย่างหรือย่างเนื้อหมู ไม่ควรเคลื่อนย้ายเนื้อบ่อยเกินไป เพื่อให้เนื้อสามารถเจริญเติบโตและเคลื่อนย้ายได้ง่าย
- การเตรียมเครื่องปรุง: เตรียมเครื่องปรุงเสริมเช่น น้ำมันปรุงรส เทอริยากิ ซอสเห็ด เพื่อใช้ในการปรุงรสชาติตามความชอบ
- การปรุงรสชาติ: การปรุงรสชาติเป็นเรื่องสำคัญ ใช้เครื่องปรุงแบบเบื้องต้น เช่น น้ำตาล ซอสถั่วเหลือง น้ำมันงา และน้ำมันข้าวอ่อน
- การตั้งค่าการปรุงอาหารแต่ละส่วน: หากคุณทำอาหารหลายส่วน ควรตั้งค่าพื้นผิวกระทะสำหรับแต่ละส่วน ให้เนื้อแต่ละส่วนสุกเหมาะสม
- การเพิ่มวัตถุดิบเพิ่มเติม: สามารถเพิ่มวัตถุดิบเพิ่มเติม เช่น ผัก ซอส เสริมรสชาติและความหลากหลายให้กับเมนูของคุณ
- การเสิร์ฟอาหาร: เมื่ออาหารสุกแล้ว จัดเสิร์ฟอาหารบนกระทะที่ยังร้อนอยู่เพื่อให้รับประทานในสภาวะอุ่น
- การทดสอบความสุกของเนื้อ: ใช้สิ่งทดสอบความสุกเช่น หนอนหน้าจุด เพื่อดูว่าเนื้อหมูสุกตามที่ต้องการหรือไม่
หมูกระทะ
สิ่งที่คุณยังไม่รู้เกี่ยวกับ หมูกระทะ
ประวัติความเป็นมาของ “หมูกระทะ”
หมูกระทะ” หรือ Teppanyaki มีรากฐานจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นวิธีการปรุงอาหารโดยใช้กระทะร้อน การประวัติและต้นกำเนิดของหมูกระทะมีความเชื่อมโยงกับแนวคิดของการทำอาหารและวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหมูกระทะ:
ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น หมูกระทะก่อนหน้านี้มีรากฐานจากสมัยยุคฟูจิวัด (794–1185 AD) ซึ่งเป็นสมัยที่พบว่าความร่วมมือระหว่างเชฟและผู้รับประทานอาหารก่อนการปรุงอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเหล่านี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดและกลายเป็นแนวคิดของการทำอาหารแบบ Teppanyaki ในภายหลัง
ความนิยมของหมูกระทะในรูปแบบที่เรารู้จักในปัจจุบันเกิดขึ้นในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อทหารชาวอเมริกันที่เป็นชาวญี่ปุ่นได้รู้จักกับการปรุงอาหารบนกระทะในญี่ปุ่น จากนั้นพวกเขากลับมาในประเทศสหรัฐอเมริกาและเริ่มต้นร้านอาหาร Teppanyaki ในสหรัฐอเมริกา
แนวคิดของการทำอาหารบนกระทะเริ่มรับความนิยมในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงคริสต์มาสเทียมครั้งแรกในปี 1945 เมื่อเชฟชาวญี่ปุ่นชื่อ “ยุโรป” ได้เริ่มใช้วิธีการปรุงอาหารบนกระทะร้อนในร้านอาหารของเขา แนวคิดนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกลายเป็นที่รู้จักในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ
ในประเทศญี่ปุ่น การทำอาหารบนหมูกระทะเป็นเรื่องซึ่งรู้จักและเป็นที่นิยมมากขึ้น การทานอาหารแบบ Teppanyaki ในร้านอาหาร Teppanyaki ที่มีเชฟปรุงอาหารบนกระทะหน้าลูกค้ากลายเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจและสนุก และแนวคิดนี้ได้รับการนำไปสู่ร้านอาหาร Teppanyaki ในส่วนอื่น ๆ ของโลกด้วย
ดังนั้น หมูกระทะมีลักษณะเป็นการปรุงอาหารบนกระทะร้อนแบบญี่ปุ่นที่ตั้งชื่อในอเมริกา และกลายเป็นการสร้างประสบการณ์การทานอาหารที่น่าสนใจและสนุกที่เชื่อมโยงวัฒนธรรมอาหารของญี่ปุ่นและความนิยมในการรับประทานอาหารในส่วนอื่น ๆ ของโลก
เทคนิคการเตรียมหมูกระทะ
หากคุณเปิดร้านหมูกระทะ สิ่งสำคัญคือ การเตรียมหั่นหมูในปริมาณมากๆ โดยคงคุณภาพ ความหนาบางของการหั่นหมู เพื่อรสชาติที่อร่อย และความรวดเร็วในการเตรียม ดังนั้นเครื่องหั่นหมูจึงถือเป็นหัวใจสำคัญของร้านหมูกระทะก็ว่าได้
เครื่องสไลด์หมู
เครื่องหั่นหมู
แจกสูตรทำน้ำจิ้มหมูกระทะ
น้ำจิ้มหมูกระทะ
ส่วนประกอบ:
- พริกชี้ฟ้าและพริกขี้หนู:
- ตามความชอบ, ใช้พริกชี้ฟ้าและพริกขี้หนูในสัดส่วนที่ทำให้มีรสเผ็ดตามที่คุณชอบ.
- กระเทียม:
- กระเทียมสับหรือบดละเอียด.
- น้ำมะนาว:
- น้ำมะนาวสด, ใส่ตามความชอบเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว.
- น้ำตาลทราย:
- น้ำตาลทรายใส่เพื่อเพิ่มรสหวาน.
- น้ำปลา:
- น้ำปลาใส่เพื่อเพิ่มรสเค็ม.
- ซอสหอยนางรม:
- ซอสหอยนางรมใส่เพื่อให้รสชาติเปรี้ยวลึก.
วิธีทำ:
- บดพริกและกระเทียม:
- ในมือถือหรือเครื่องปั่น, บดพริกชี้ฟ้า, พริกขี้หนู, และกระเทียมให้ละเอียด.
- ผสมส่วนประกอบ:
- นำพริกและกระเทียมที่บดละเอียดมาผสมในชาม และเพิ่มน้ำมะนาว, น้ำตาลทราย, น้ำปลา, และซอสหอยนางรมลงไป. คนให้ทุกส่วนประกอบเข้ากัน.
- ชิมรส:
- ชิมรสและปรับรสตามที่คุณชอบ. อาจจะต้องเพิ่มน้ำมะนาว, น้ำตาลทราย, หรือน้ำปลาตามความชอบของคุณ.
- เสิร์ฟ:
- เสิร์ฟน้ำจิ้มพร้อมกับหมูกระทะหรืออาหารย่าง.
น้ำจิ้มหมูกระทะสามารถปรับแต่งรสชาติตามความชอบส่วนตัวได้. นอกจากนี้, คุณยังสามารถเพิ่มมะเขือเทศหรือกระเทียมสดลงไปเพื่อเพิ่มความหอมหวานให้กับน้ำจิ้มได้ด้วย.