![ปกบทความ (4) Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/uploads/2024/12/ปกบทความ-4.jpg)
1. แกงรัญจวน
แกงรัญจวนเป็นหนึ่งในอาหารชาววังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม และกลิ่นหอมที่ชวนหลงใหล สูตรแกงนี้มีต้นกำเนิดจากสมัยรัชกาลที่ 5 โดยเกิดจากการนำอาหารเหลือมาปรุงใหม่เพื่อไม่ให้เสียของ วิธีทำจะใช้น้ำพริกกะปิเป็นส่วนผสมหลัก เคี่ยวกับน้ำซุปจนหอม จากนั้นใส่เนื้อวัวหรือหมูต้มเปื่อย และปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และเกลือ เพิ่มสมุนไพรไทยอย่างใบมะกรูดและโหระพาเพื่อเพิ่มความหอม กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและอบอุ่นใจ
![1](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/uploads/2024/12/1-24.jpg)
วัตถุดิบ
- เนื้อวัวหรือหมูต้มเปื่อย 300 กรัม
- น้ำพริกกะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป 2 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ
- โหระพา 1 ถ้วย
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
- พริกขี้หนูสด (สำหรับเพิ่มความเผ็ด) 3-5 เม็ด
ขั้นตอนการทำ
- ต้มน้ำซุปในหม้อด้วยไฟกลางจนเดือด ใส่น้ำพริกกะปิลงไป คนให้ละลายและส่งกลิ่นหอม
- ใส่เนื้อวัวหรือหมูต้มเปื่อยลงไป เคี่ยวต่อประมาณ 10 นาทีเพื่อให้เนื้อซึมซับรสชาติ
- ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และเกลือ ชิมรสให้ได้ความเปรี้ยวหวานเค็มกลมกล่อม
- ใส่ใบมะกรูดฉีกและโหระพาลงไป คนให้เข้ากัน ใส่พริกขี้หนูสดหากต้องการเพิ่มความเผ็ด ปิดไฟทันทีเพื่อคงความสดของสมุนไพร
- ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และเครื่องเคียงตามชอบ เช่น ผักสด
คล็ดลับเพิ่มเติม
- ใช้น้ำพริกกะปิที่มีกะปิคุณภาพดี จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติที่เข้มข้น
- หากต้องการรสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น ให้เคี่ยวเนื้อในน้ำพริกกะปินานขึ้นเพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อ
- ใส่ใบโหระพาในขั้นตอนสุดท้ายและปิดไฟทันที เพื่อให้กลิ่นหอมของสมุนไพรยังคงอยู่
- สามารถเพิ่มพริกขี้หนูบุบเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนสำหรับคนที่ชอบรสจัด และเครื่องเคียงตามชอบ เช่น ผักสด
2. หมูโสร่ง
เมนูนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา หมูโสร่งเป็นหนึ่งในอาหารว่างที่สะท้อนถึงความประณีตและสร้างสรรค์ของคนไทยในยุคนั้น หมูปรุงรสอย่างพิถีพิถันถูกห่อด้วยเส้นหมี่หรือบะหมี่จีน ซึ่งต้องพันอย่างสวยงามและแน่นพอสมควร จากนั้นนำไปทอดจนเหลืองกรอบ มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน หมูโสร่งมักเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มหวาน เช่น น้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน และสามารถจัดจานคู่กับผักสด เช่น แตงกวา ผักชี หรือใบโหระพา เพื่อเพิ่มความสดชื่นและความสมดุลให้กับเมนูนี้
วัตถุดิบ
- หมูสับ 300 กรัม
- รากผักชี 2 ราก (สับละเอียด)
- กระเทียม 5 กลีบ (สับละเอียด)
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายเล็กน้อย
- เส้นหมี่ซั่วหรือหมี่ขาว (แช่น้ำให้นิ่ม) 100 กรัม
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
ขั้นตอนการทำ
- ผสมหมูสับกับรากผักชี กระเทียม และพริกไทยให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล คลุกเคล้าให้เนื้อหมูเหนียว
- ปั้นหมูสับที่ปรุงรสแล้วเป็นก้อนกลมขนาดพอดีคำ
- นำเส้นหมี่ที่แช่น้ำจนนิ่มมาพันรอบลูกหมูให้แน่น จัดทรงให้สวยงาม
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง เมื่อน้ำมันร้อนให้ใส่หมูโสร่งลงทอดจนเหลืองกรอบทั่วทั้งชิ้น
- ตักขึ้นพักบนกระดาษซับน้ำมันเพื่อเอาน้ำมันส่วนเกินออก
![2 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- การปรุงหมูควรนวดให้เนื้อหมูมีความเหนียวก่อนนำไปพันเส้นหมี่ จะช่วยให้หมูไม่หลุดง่ายขณะทอด
- ใช้ไฟกลางในการทอด เพื่อให้หมูสุกทั่วถึงและเส้นหมี่ไม่ไหม้
- หากใช้หมี่ซั่ว ควรล้างให้สะอาดเพื่อลดความเค็มก่อนนำไปพันหมู
- สามารถเติมเครื่องเทศเพิ่มเติม เช่น ผงลูกจันทน์เทศเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความหอม
3. ข้าวแช่
ข้าวแช่เป็นอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และได้รับความนิยมในช่วงฤดูร้อน โดยเฉพาะในวันสงกรานต์ ข้าวแช่ประกอบด้วยข้าวหอมมะลิที่แช่ในน้ำเย็นหอม ๆ และเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลายชนิดที่ให้รสชาติหวาน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย ทำให้ข้าวแช่มีรสชาติกลมกล่อมสดชื่น และได้รับความนิยมจากทั้งเด็กและผู้ใหญ่
![3 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
วัตถุดิบ
- ข้าวหอมมะลิ 1 ถ้วย
- น้ำดอกมะลิ (หรือดอกไม้หอมอื่นๆ เช่น ดอกมะลิหรือดอกจำปา) 2 ถ้วย
- เนื้อปลาแห้ง (ปลาอินทรีย์หรือปลาแห้งชนิดอื่น) 100 กรัม
- กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกหยวก 1-2 เม็ด (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ)
- ผักสด เช่น ถั่วฝักยาว, แตงกวา (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ)
- หมูหวาน 50 กรัม
- กุ้งแห้ง หรือ กุ้งสด (ตามความชอบ)
- น้ำตาลปี๊บ (ถ้าต้องการให้หวาน)
- เกลือ และ น้ำปลา สำหรับปรุงรส
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมข้าว:
- ล้างข้าวหอมมะลิให้สะอาด และแช่น้ำประมาณ 30 นาที
- นำข้าวที่แช่น้ำแล้วไปหุงในหม้อหุงข้าว หรือใช้กะทะหุงข้าวโดยใช้วิธีการหุงข้าวปกติ
- เมื่อข้าวสุกแล้วให้พักข้าวไว้จนเย็น
-
เตรียมน้ำดอกมะลิ:
- ต้มน้ำแล้วใส่ดอกมะลิลงไปในน้ำต้มเพื่อให้น้ำมีกลิ่นหอม (หรือสามารถใช้น้ำดอกไม้สำเร็จรูป)
- ปรับรสด้วยการเติมน้ำตาลปี๊บและเกลือเล็กน้อย เพื่อให้น้ำดอกมะลิมีรสชาติหวานอมเค็ม
-
เตรียมเครื่องเคียง:
- เนื้อปลาแห้ง: นำปลาแห้งมาผัดในน้ำมันร้อนจนกรอบ
- กระเทียมเจียว: เจียวกระเทียมในน้ำมันจนหอม
- พริกหยวก: หั่นพริกหยวกเป็นชิ้นเล็ก ๆ
- ผักสด: ล้างและหั่นผักที่ใช้เป็นเครื่องเคียง เช่น แตงกวาและถั่วฝักยาว
-
การจัดเสิร์ฟ:
- ใส่ข้าวหอมมะลิที่แช่เย็นลงในชาม
- ราดน้ำดอกมะลิลงไปให้พอเหมาะ
- จัดเครื่องเคียงต่าง ๆ ลงในชาม เช่น ปลาแห้ง, กระเทียมเจียว, พริกหยวก, หมูหวาน, ผักสด และกุ้ง
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ข้าวต้องหอม: เลือกข้าวหอมมะลิที่คุณภาพดี หอมและนุ่ม เมื่อหุงเสร็จแล้วให้พักข้าวไว้จนเย็น เพื่อให้ข้าวไม่เปียกหรือละเอียดเมื่อแช่ในน้ำ
- น้ำดอกมะลิหอม: การใช้น้ำดอกมะลิหรือดอกมะลิสดจะทำให้น้ำที่ใช้ราดข้าวมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น ควรใช้ดอกไม้สดเพื่อให้ได้กลิ่นหอมจากธรรมชาติ
- การเตรียมเครื่องเคียง: เครื่องเคียงสามารถปรับเปลี่ยนตามความชอบ เช่น การเพิ่มกุ้งสดหรือปลาย่างเพื่อให้มีความหลากหลายของรสชาติ
- เพิ่มความหวาน: ถ้าต้องการรสหวานล้ำให้เติมน้ำตาลปี๊บลงในน้ำดอกมะลิเล็กน้อย
4. แกงคั่วหอยขม
แกงคั่วหอยขมเป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเค็มเผ็ด กลมกล่อม ด้วยการใช้หอยขมสดๆ มาคั่วกับเครื่องแกงและสมุนไพรต่างๆ สร้างกลิ่นหอมชวนทาน เมนูนี้เป็นที่นิยมในภาคกลาง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่หอยขมมีมาก และมักเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ
วัตถุดิบ
- หอยขมสด 500 กรัม
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- เครื่องแกงคั่ว (ประกอบด้วยพริกแห้ง 5-6 เม็ด, ตะไคร้ 2 ต้น, ข่า 2 ชิ้น, กระเทียม 5 กลีบ, หอมแดง 2 หัว, กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ)
- น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 1 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 3-4 ใบ
- น้ำซุป 2 ถ้วย
- พริกขี้หนู (เพิ่มความเผ็ด) 3-5 เม็ด
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกงคั่ว:
- โขลกพริกแห้ง, ตะไคร้, ข่า, กระเทียม, หอมแดง และกะปิรวมกันจนละเอียด
-
คั่วเครื่องแกง:
- ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย จากนั้นใส่เครื่องแกงที่โขลกแล้วลงไปคั่วจนหอม
-
ใส่หอยขม:
- เมื่อเครื่องแกงหอมแล้ว ใส่หอยขมลงไปคั่วให้เข้ากันกับเครื่องแกง
-
เติมน้ำซุปและปรุงรส:
- เติมน้ำซุปลงไปในกระทะ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าและน้ำตาลปี๊บ ชิมรสตามชอบ
-
เพิ่มสมุนไพร:
- ใส่ใบโหระพาและใบมะกรูดฉีกลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ
-
เสิร์ฟ:
- ตักแกงคั่วหอยขมใส่ชาม เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวเหนียว
![4 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ใช้หอยขมสด เพื่อให้รสชาติหวานและกรอบของหอยขมมาเต็มที่
- หากไม่ชอบรสเผ็ดมาก สามารถลดปริมาณพริกขี้หนูลงได้
- การใช้ปลาร้าในสูตรจะช่วยเพิ่มรสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมให้แกงคั่วหอยขม
- สามารถเพิ่มใบมะกรูดและใบโหระพาในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
5. น้ำพริกลงเรือ
น้ำพริกลงเรือเป็นอาหารพื้นบ้านของไทยที่มีรสชาติเผ็ดจัดจ้าน เปรี้ยวหวานกลมกล่อม และหอมสมุนไพร มีชื่อเสียงในภาคกลาง โดยเฉพาะในจังหวัดสมุทรสงคราม เมนูนี้จะใช้ปลาหรืออาหารทะเลต่างๆ เป็นส่วนประกอบหลัก น้ำพริกนี้ทำจากการนำพริกสดและเครื่องแกงมาผัดให้หอมแล้วใส่เนื้อปลาหรือเนื้อสัตว์ลงไปเคี่ยว จนได้รสชาติกลมกล่อมและเผ็ดร้อน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยและผักสดหลากหลายชนิด
![5 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
วัตถุดิบ
- กุ้งสด 100 กรัม (สามารถใช้ปลาหรือหมูสับแทนได้)
- พริกขี้หนูสวน 10-15 เม็ด (ตามความชอบ)
- กระเทียม 5 กลีบ
- หอมแดง 3 หัว
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) 1/2 ถ้วย
- ผักสด เช่น ถั่วฝักยาว, มะเขือเปราะ, แตงกวา (สำหรับทานคู่กับน้ำพริก)
- ใบมะกรูด 2 ใบ (หากต้องการ)
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับผัด)
ขั้นตอนการทำ
-
โขลกเครื่องแกง:
- โขลกพริกขี้หนู, กระเทียม, หอมแดง และกะปิให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
-
ผัดเครื่องแกง:
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช จากนั้นใส่เครื่องแกงที่โขลกแล้วลงไปผัดในกระทะจนหอมและเข้ากัน
-
ใส่กุ้งหรือเนื้อสัตว์:
- ใส่กุ้งสด (หรือเนื้อปลาหรือหมูสับ) ลงไปผัดให้เข้ากับเครื่องแกงจนสุก
-
ปรุงรส:
- เติมน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) ลงไปผัดให้เข้ากันและให้มีความข้น
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา และน้ำมะนาว ชิมรสให้ได้ความหวาน เค็ม เปรี้ยว และเผ็ดตามชอบ
-
เพิ่มสมุนไพร:
- ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไปในกระทะเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม
-
เสิร์ฟ:
- ตักน้ำพริกลงเรือใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และผักสดหลากหลายชนิด เช่น ถั่วฝักยาว, มะเขือเปราะ, แตงกวา หรือผักอื่น ๆ ตามชอบ
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- ใช้กะปิคุณภาพดีจะช่วยเพิ่มความหอมและรสชาติที่เข้มข้น
- สามารถปรับความเผ็ดได้ตามความชอบ โดยการลดหรือเพิ่มพริกขี้หนู
- หากไม่ชอบรสเค็มมาก สามารถปรับปริมาณน้ำปลาได้
- ผักสดที่ทานคู่กับน้ำพริกลงเรือสามารถเลือกได้ตามความชอบ เช่น ถั่วฝักยาว, มะเขือเปราะ, แตงกวา หรือผักอื่นๆ ที่ชอบ
6. แกงเผ็ดเป็ดย่าง
แกงเผ็ดเป็ดย่างเป็นเมนูอาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดร้อน หอมกลิ่นเครื่องแกง และมีความหวานจากเนื้อเป็ดย่าง ช่วยเสริมรสชาติให้แกงมีความกลมกล่อมและหอมอร่อย เมนูนี้มักนิยมในงานเลี้ยงหรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ โดยมีการใช้เครื่องแกงเผ็ดที่เข้มข้นและเนื้อเป็ดที่นุ่ม ซึ่งจะช่วยทำให้ทุกคำมีรสชาติเต็มที่
วัตถุดิบ
- เป็ดย่าง (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 500 กรัม
- กะทิ 2 ถ้วย
- พริกขี้หนูสีแดง 10-12 เม็ด
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ข่า 2 ชิ้น
- หอมแดง 3 หัว
- กระเทียม 4 กลีบ
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพา 1 ถ้วย
- ใบมะกรูดฉีก 4-5 ใบ
- พริกหยวก (หั่นชิ้น) 2-3 เม็ด (สำหรับตกแต่ง)
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง:
- โขลกพริกขี้หนู, ตะไคร้, ข่า, หอมแดง, กระเทียม และกะปิให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน (หรือใช้เครื่องบดอาหารสำหรับความสะดวก)
-
ผัดเครื่องแกง:
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่เครื่องแกงที่โขลกแล้วลงไปผัดในกระทะจนหอมและมีกลิ่นหอมของสมุนไพร
-
เติมกะทิ:
- เติมกะทิลงไปในกระทะแล้วคนให้เข้ากัน พอเดือดให้ลดไฟลงเพื่อให้เครื่องแกงผสมกับกะทิ
-
ใส่เนื้อเป็ดย่าง:
- ใส่ชิ้นเป็ดย่างลงไปในกระทะแล้วคนให้เข้ากับน้ำแกง ทิ้งไว้ให้เนื้อเป็ดซึมซับรสชาติของเครื่องแกง
-
ปรุงรส:
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และเติมพริกหยวกหั่นชิ้นลงไปในแกง ชิมรสชาติให้ได้ความเผ็ด หวาน และเค็มตามชอบ
-
เพิ่มสมุนไพร:
- ใส่ใบมะกรูดฉีกและใบโหระพาลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ
-
เสิร์ฟ:
- ตักแกงเผ็ดเป็ดย่างใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และตกแต่งด้วยใบโหระพาและพริกหยวกหั่นชิ้น
![6 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- การเลือกเป็ด: เป็ดย่างที่เลือกใช้ควรเป็นเป็ดที่ย่างจนหนังกรอบและเนื้อในยังคงความนุ่ม
- การปรุงรส: ถ้าต้องการรสชาติที่เผ็ดขึ้น สามารถเพิ่มพริกขี้หนูได้ตามชอบ
- การใช้กะทิ: ใช้กะทิที่มีคุณภาพจะช่วยเพิ่มรสชาติที่มันและหอม
- การตกแต่ง: การใช้พริกหยวกและใบโหระพาช่วยเพิ่มความสดชื่นและกลิ่นหอมให้กับแกง
7. หลนปูเค็ม
หลนปูเค็มเป็นอาหารไทยโบราณที่มีรสชาติเปรี้ยวเค็มและเผ็ดร้อน กลมกล่อมด้วยรสชาติจากปูเค็มที่ผสมผสานกับเครื่องแกงและกะทิ หรือน้ำพริกที่ใช้ในการทำหลน เมนูนี้มักนิยมทานกับผักสดต่างๆ เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว และผักอื่น ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและกรอบในการทาน
![7 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
วัตถุดิบ
- ปูเค็ม (หรือเนื้อปู) 100 กรัม
- กะทิ 1 ถ้วย
- พริกขี้หนูสด 5-8 เม็ด (ตามความชอบ)
- กระเทียม 3 กลีบ
- หอมแดง 2 หัว
- ตะไคร้ 1 ต้น
- ข่า 2 ชิ้น
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักสด เช่น ถั่วฝักยาว, แตงกวา, มะเขือเปราะ (สำหรับทานคู่กับหลน)
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง:
- โขลกพริกขี้หนู, กระเทียม, หอมแดง, ตะไคร้, ข่า ให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
-
ผัดเครื่องแกง:
- ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่เครื่องแกงที่โขลกแล้วลงไปผัดในกระทะจนหอม
-
ใส่กะทิ:
- เติมกะทิลงไปในกระทะแล้วคนให้เข้ากัน รอให้เดือด
-
ใส่ปูเค็ม:
- เมื่อกะทิเดือดแล้วใส่ปูเค็มหรือเนื้อปูลงไป เคี่ยวให้รสชาติเข้ากันกับกะทิ
-
ปรุงรส:
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว ชิมรสชาติให้ได้ความหวาน เค็ม เปรี้ยว และเผ็ดตามต้องการ
-
เสิร์ฟ:
- ตักหลนปูเค็มใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมผักสด เช่น ถั่วฝักยาว แตงกวา มะเขือเปราะ หรือผักสดอื่นๆ ที่ชอบ
8. เมี่ยงคำ
เมี่ยงคำเป็นอาหารทานเล่นหรือกับข้าวที่มีรสชาติหวาน, เค็ม, เปรี้ยว, และเผ็ดในคำเดียว โดยมักประกอบไปด้วยสมุนไพรและเครื่องปรุงต่างๆ ซึ่งใช้ใบชะพลูเป็นแผ่นห่อและมีการเติมเครื่องเคียงหลากหลาย เมี่ยงคำเป็นอาหารยอดนิยมในภาคกลางของไทยและถือเป็นอาหารที่มักจะเสิร์ฟในงานเลี้ยงหรือเป็นของว่างที่อร่อยและมีประโยชน์
วัตถุดิบ
- ใบชะพลู (สำหรับห่อ) 20-30 ใบ
- มะพร้าวขูด (คั่วให้หอม) 1/4 ถ้วย
- ถั่วลิสงคั่ว 1/4 ถ้วย
- กุ้งแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสด 3-5 เม็ด (ตามความชอบ)
- หอมแดง 1-2 หัว (หั่นบาง)
- ขิง 1-2 ชิ้น (หั่นบาง)
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปหรือน้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
- กะปิ 1 ช้อนชา (ถ้าต้องการรสเค็มเพิ่ม)
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องเคียง:
- คั่วมะพร้าวขูดจนหอมและเป็นสีทอง
- คั่วถั่วลิสงให้กรอบ
- หั่นหอมแดง, กระเทียม, ขิง, และพริกขี้หนูเป็นชิ้นเล็กๆ
- เตรียมกุ้งแห้งและกระเทียมเจียวไว้
-
ทำน้ำราด:
- ผสมน้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา, น้ำมะนาว, และน้ำซุปในหม้อเล็กๆ
- ตั้งไฟให้เดือดแล้วคนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันจนรสชาติออกมาหวาน-เค็ม-เปรี้ยวตามต้องการ
- หากต้องการรสเค็มมากขึ้น สามารถเติมกะปิเล็กน้อยลงไปในน้ำราดเพื่อเพิ่มรสชาติ
-
จัดเครื่องเคียงและใบชะพลู:
- นำใบชะพลูมาล้างให้สะอาดและเด็ดขั้วออก
- ใส่เครื่องเคียงลงบนใบชะพลู เช่น มะพร้าวคั่ว, ถั่วลิสง, กุ้งแห้ง, กระเทียมเจียว, พริกขี้หนู, ขิง, และหอมแดง
-
ราดน้ำราด:
- รินน้ำราดที่เตรียมไว้ลงบนเครื่องเคียงในใบชะพลู (ใส่น้ำราดพอประมาณ)
-
ห่อเมี่ยงคำ:
- พับใบชะพลูจากด้านข้างเข้าไปห่อเครื่องเคียงทั้งหมดให้แน่น
- เสิร์ฟ:
- เสิร์ฟเมี่ยงคำทันทีเมื่อห่อเสร็จ เพื่อให้รสชาติยังคงสดใหม่และรสชาติเข้ากันดี
![8 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
9. แกงป่าไก่บ้าน
แกงป่าไก่บ้านเป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเผ็ดร้อนกลมกล่อม โดยมีการใช้สมุนไพรไทยและเครื่องแกงที่ร้อนแรง ทำให้รสชาติของแกงมีความเข้มข้นและหอมจากเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งเหมาะกับการรับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เมนูนี้เป็นที่นิยมในภาคเหนือและภาคกลาง โดยไก่บ้านจะมีความกรอบนอกนุ่มใน ช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับแกง
![9 Thai Food อาหารไทย](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
วัตถุดิบ
- เนื้อไก่บ้าน (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 500 กรัม
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำซุป 2 ถ้วย
- พริกขี้หนูสด 10-12 เม็ด
- ตะไคร้ 2 ต้น (หั่นท่อน)
- ข่า 2-3 ชิ้น
- หอมแดง 3 หัว
- กระเทียม 4 กลีบ
- ใบมะกรูด 3-4 ใบ (ฉีก)
- ใบโหระพา 1 ถ้วย
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
- ผักต่างๆ เช่น มะเขือเปราะ 2 ลูก (หั่นชิ้น), ถั่วฝักยาว 1 ถ้วย, ข้าวโพดอ่อน 2-3 ฝัก (หั่นท่อน)
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับเพิ่มรสเปรี้ยว)
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง:
- โขลกพริกขี้หนู, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม ให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน (หากสะดวกสามารถใช้เครื่องปั่นได้)
-
ผัดเครื่องแกง:
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนหอม
-
ใส่ไก่บ้าน:
- ใส่เนื้อไก่บ้านที่หั่นไว้ลงไปในกระทะ ผัดให้ไก่มีสีน้ำตาลและเริ่มสุก
-
เติมน้ำซุปและกะทิ:
- เติมน้ำซุปและกะทิลงไปในกระทะ จากนั้นคนให้เข้ากัน รอให้เดือด
-
ใส่ผักและปรุงรส:
- ใส่ผักต่างๆ เช่น มะเขือเปราะ, ถั่วฝักยาว, และข้าวโพดอ่อนลงไปในแกง
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ, และพริกไทยดำ ชิมรสชาติให้ได้รสเผ็ด เค็ม หวานตามต้องการ
-
เติมสมุนไพร:
- ใส่ใบมะกรูดฉีกและใบโหระพาลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟทันทีเพื่อให้กลิ่นสมุนไพรยังคงอยู่
-
เสิร์ฟ:
- ตักแกงป่าไก่บ้านใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวเหนียว
10. แกงมัสมั่น
แกงมัสมั่นเป็นหนึ่งในแกงที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีรสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อมจากเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งมีส่วนผสมของเครื่องเทศที่ให้ความหอมและรสชาติหวาน มัน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย เนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่ถูกเคี่ยวจนเปื่อย และผักต่างๆ ทำให้แกงมัสมั่นเป็นเมนูที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในอาหารที่มีรสชาติอร่อยและเต็มไปด้วยกลิ่นหอม
วัตถุดิบ
- เนื้อวัวหรือหมู (หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ) 500 กรัม
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำซุป 1 ถ้วย
- มันฝรั่ง (หั่นลูกเต๋า) 2 ลูก
- หัวหอมใหญ่ (หั่นชิ้น) 1 หัว
- ถั่วลิสงคั่ว 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มรสเปรี้ยว)
- ใบมะกรูด 2 ใบ (ฉีก)
- พริกขี้หนูแห้ง 3-4 เม็ด (ปรับตามความชอบ)
- ข่า 2-3 แว่น
- ตะไคร้ 1 ต้น (หั่นท่อน)
- กระเทียม 4 กลีบ
- หอมแดง 2 หัว
- ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
- ผงยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
- ผงลูกผักชี 1/2 ช้อนชา
- กะปิ 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช (สำหรับผัดเครื่องแกง)
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง:
- โขลกพริกขี้หนูแห้ง, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม, ผงขมิ้น, ผงยี่หร่า, ผงลูกผักชี และกะปิให้ละเอียด
- หากสะดวกสามารถใช้เครื่องปั่นได้เพื่อให้เครื่องแกงละเอียดและเข้ากันดี
-
ผัดเครื่องแกง:
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
-
ใส่เนื้อสัตว์:
- ใส่เนื้อหมูหรือเนื้อวัวลงไปผัดให้เนื้อสุกและมีสีน้ำตาลเล็กน้อย
-
เติมกะทิและน้ำซุป:
- เติมกะทิลงไปในกระทะและคนให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำซุปลงไป เคี่ยวจนเนื้อเริ่มเปื่อย (ประมาณ 15-20 นาที)
-
เพิ่มมันฝรั่งและถั่วลิสง:
- ใส่มันฝรั่งที่หั่นไว้ลงไปในแกง ต้มจนมันฝรั่งสุกและเนื้อเนียน
- เติมถั่วลิสงคั่วลงไปเพื่อเพิ่มความกรอบ
-
ปรุงรส:
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว เพื่อให้รสชาติหวาน เค็ม และเปรี้ยวกลมกล่อม
- ชิมรสชาติและปรับรสตามชอบ
-
ใส่สมุนไพร:
- ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป และเคี่ยวต่อประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้สมุนไพรและเครื่องเทศซึมเข้าเนื้อ
-
เสิร์ฟ:
- ตักแกงมัสมั่นใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหรือข้าวเหนียว
![10 blank](https://www.foodequipment.co.th/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- การเลือกเนื้อ: ใช้เนื้อหมูหรือเนื้อวัวที่มีความมันเพื่อให้เนื้อมีความนุ่มและชุ่มฉ่ำ
- การใช้กะทิ: ควรใช้กะทิสดเพื่อเพิ่มความหอมและรสชาติที่ดี
- การปรับรส: หากชอบรสเปรี้ยวสามารถเติมน้ำมะนาวเพิ่มในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุล
- การผัดเครื่องแกง: การผัดเครื่องแกงให้หอมจะช่วยเพิ่มรสชาติที่เข้มข้นและอร่อย
เครื่องหั่นเนื้อ
เครื่องบดเนื้อ
เครื่องบดเนื้อ เป็นอุปกรณ์สำคัญในครัวที่ช่วยบดเนื้อสัตว์หรือวัตถุดิบต่างๆ ให้ละเอียดตามต้องการ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารแบบโฮมเมด เช่น หมูบด ไก่บด ไส้กรอก หรือเบอร์เกอร์ โดยเครื่องบดเนื้อช่วยให้คุณควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบและรสชาติได้อย่างสมบูรณ์แบบ