วัตถุดิบ:

• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำซุป (น้ำต้มกระดูกหมูหรือน้ำซุปไก่) 1 ถ้วยตวง
• หมูสับ 50 กรัม
• เห็ดหอมสดหั่นบาง ๆ 2-3 ดอก หากไม่มีเห็ดหอมสด สามารถใช้เห็ดหอมแห้งแช่น้ำให้พองตัวแทนได้
• ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
• พริกไทยเล็กน้อย (ตามชอบ)
• ต้นหอมซอยเล็กน้อย (สำหรับโรยหน้า)

ขั้นตอนการทำ:

1. เตรียมไข่และน้ำซุป
   ตอกไข่ใส่ชามผสม ตีให้เข้ากันดี จากนั้นเติมน้ำซุปลงไปในไข่ ตีเบา ๆ จนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน น้ำซุปจะช่วยเพิ่มรสชาติและความหอมให้กับไข่ตุ๋น
2. ปรุงรส
   ใส่ซีอิ๊วขาวและพริกไทยเล็กน้อยลงในส่วนผสมไข่ คนให้เข้ากันเพื่อให้ไข่ตุ๋นมีรสชาติกลมกล่อมและหอมเบา ๆ จากซีอิ๊วขาว
3. ใส่หมูสับและเห็ดหอม
   เติมหมูสับและเห็ดหอมลงไปในส่วนผสมไข่ คนเบา ๆ เพื่อให้หมูและเห็ดกระจายตัวทั่วกัน หมูสับจะช่วยให้ไข่ตุ๋นมีเนื้อสัมผัสที่แน่นขึ้น ส่วนเห็ดหอมจะเพิ่มความหอมอันเป็นเอกลักษณ์
4. กรองไข่เพื่อให้เนื้อเนียน
   กรองส่วนผสมผ่านตะแกรงเพื่อให้ได้เนื้อไข่ที่เนียนละเอียดขึ้น การกรองยังช่วยให้ไข่ตุ๋นมีความเนียนและนุ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อสุก
5. นึ่งไข่ตุ๋น
   เทส่วนผสมที่กรองแล้วลงในถ้วยที่สามารถนำไปนึ่งได้ ปิดถ้วยด้วยพลาสติกแรปหรือฝาเพื่อป้องกันหยดน้ำจากฝาหม้อนึ่ง นำถ้วยไปนึ่งด้วยไฟอ่อนถึงปานกลางประมาณ 15-20 นาที โดยหมั่นเช็คความสุกเป็นระยะ ๆ
6. ตกแต่งและเสิร์ฟ
   เมื่อนึ่งเสร็จแล้ว เปิดฝาโรยต้นหอมซอยด้านบนเพื่อเพิ่มสีสันและความหอม พร้อมเสิร์ฟไข่ตุ๋นหมูสับเห็ดหอมรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นซีอิ๊วและเห็ด

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

• ใช้เห็ดหอมแห้งที่แช่น้ำให้พองตัวแล้วจะช่วยให้ได้กลิ่นหอมมากขึ้น
• ใช้ไฟอ่อนและหลีกเลี่ยงการนึ่งด้วยไฟแรง เพราะจะทำให้เนื้อไข่ตุ๋นไม่เนียน
• สามารถเพิ่มปริมาณหมูสับหรือเห็ดหอมได้ตามชอบ

เมนูนี้เหมาะกับการทานเป็นมื้อหลักที่อิ่มและอร่อยครบเครื่องในตัวเดียว หวังว่าคุณจะสนุกกับการทำไข่ตุ๋นหมูสับเห็ดหอมสูตรนี้นะคะ!

วัตถุดิบ

1. เนื้อวัว (เช่น ส่วนสะโพกหรือเนื้อสันนอก หั่นชิ้นพอดีคำ) 300 กรัม
   • ใช้เนื้อส่วนที่นุ่มจะทำให้แกงมีรสชาติอร่อยและเนื้อไม่นุ่มจนเกินไป
2. ผักชีลาว 1 กำมือ (หั่นท่อน)
3. ใบแมงลัก 1 กำมือ
4. ต้นหอม 2-3 ต้น (หั่นท่อน)
5. พริกขี้หนู 7-10 เม็ด (ปรับความเผ็ดตามชอบ)
6. ข่า หั่นแว่นบาง 2-3 แว่น
7. ตะไคร้ 1 ต้น (หั่นท่อนและทุบเล็กน้อย)
8. ใบมะกรูด 3 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นใหญ่)
9. น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ปรับรสตามความชอบ)
10. น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรุงรสตามชอบ)
11. เกลือ 1 ช้อนชา
12. น้ำเปล่า 2 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ

1. เตรียมเครื่องแกง

   • โขลกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูให้ละเอียด เครื่องแกงนี้จะเป็นหัวใจหลักที่ให้รสชาติและกลิ่นหอมในแกงอ่อม

2. ผัดเครื่องแกง

   • ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) แล้วนำเครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนเริ่มหอม การผัดจะช่วยเพิ่มความหอมของสมุนไพรและทำให้น้ำแกงมีรสชาติที่เข้มข้นขึ้น

3. ใส่เนื้อวัวลงไปผัด

   • ใส่เนื้อวัวที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไปผัดกับเครื่องแกงให้พอเริ่มสุก การผัดนี้จะช่วยให้รสชาติของเครื่องแกงซึมเข้าเนื้อวัว ทำให้น้ำแกงมีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น

4. เติมน้ำและปรุงรส

   • เติมน้ำเปล่าลงไปให้พอท่วมเนื้อ ใช้ไฟปานกลาง รอจนน้ำเริ่มเดือด ใส่น้ำปลาร้าและเกลือ แล้วเคี่ยวต่อให้เนื้อเริ่มนุ่ม

5. ใส่ผักสดต่างๆ

   • เมื่อเนื้อเริ่มนุ่ม ใส่ผักชีลาว ต้นหอม และใบแมงลักลงไป คนให้เข้ากันแล้วต้มต่อให้ผักสุกพอดี โดยไม่ต้องปล่อยให้นิ่มเกินไป

6. ปรุงรสเพิ่มเติม

   • เติมน้ำปลาตามความชอบ ชิมรสให้ได้ตามที่ต้องการ สามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดเพื่อความเผ็ดที่เข้มข้นขึ้น

7. เสิร์ฟ

   • ตักแกงอ่อมเนื้อใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวยหรือข้าวเหนียว อร่อยเต็มรสชาติด้วยเนื้อวัวนุ่มและกลิ่นหอมของสมุนไพร

เคล็ดลับการทำให้อร่อย

• การเลือกเนื้อวัว: ใช้เนื้อส่วนที่มีความนุ่ม เช่น เนื้อสะโพกหรือเนื้อสันนอก จะทำให้แกงมีเนื้อสัมผัสที่ดี
• ความสดของสมุนไพร: สมุนไพรสดๆ อย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบแมงลักช่วยให้แกงมีกลิ่นหอมสดชื่น
• การปรุงด้วยน้ำปลาร้า: น้ำปลาร้าควรเลือกใช้ปลาร้าที่สะอาดและมีคุณภาพดี จะช่วยเพิ่มรสชาติกลมกล่อมและไม่ฉุนเกินไป

แกงอ่อมเนื้อเป็นเมนูที่เต็มไปด้วยรสชาติของเนื้อวัวและสมุนไพรไทย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารอีสาน รับรองว่าอร่อยและกลมกล่อมแบบต้นตำรับค่ะ