
แกงอ่อม ถือเป็นหนึ่งในอาหารพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคอีสาน ซึ่งเป็นภูมิภาคหนึ่งของไทยที่มีวัฒนธรรมการกินที่น่าสนใจและหลากหลาย แกงอ่อมได้รับความนิยมไม่เพียงแค่ในภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังได้รับการยอมรับจากคนทั่วประเทศเนื่องจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงน้ำขลุกขลิกที่หอมสมุนไพรไทย เช่น ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด มักเสิร์ฟคู่กับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อนๆ อิ่มอร่อยแบบบ้านๆ แต่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและกลิ่นอายของความเป็นพื้นเมืองอย่างแท้จริง
แกงอ่อมเป็นอาหารที่เน้นการใช้สมุนไพรไทยสดใหม่หลากชนิด ซึ่งนอกจากจะเพิ่มรสชาติแล้ว ยังช่วยบำรุงสุขภาพ เช่น ข่าที่ช่วยขับลม ตะไคร้ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และใบแมงลักที่มีสรรพคุณในการลดไขมัน ทำให้แกงอ่อมเป็นเมนูที่นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์ทางสุขภาพมากมาย ส่วนผสมหลักของแกงอ่อมประกอบด้วยเนื้อสัตว์และผักสดซึ่งให้ความหอมและรสชาติที่ลงตัว จึงทำให้แกงอ่อมมีรสชาติกลมกล่อม แต่สามารถปรับเปลี่ยนวัตถุดิบได้ตามความชอบของแต่ละคน เช่น ใช้เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อปลาช่อน เป็นต้น โดยผักที่ใช้ในแกงอ่อมก็มักเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผักชีลาว ต้นหอม และใบแมงลักที่ช่วยเสริมกลิ่นหอมและเพิ่มรสชาติอร่อยแบบดั้งเดิม
ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 5 สูตรแกงอ่อม ที่หลากหลายและอร่อยแบบต้นตำรับ ไม่ว่าจะเป็นแกงอ่อมหมู แกงอ่อมไก่ แกงอ่อมปลาช่อน แกงอ่อมเนื้อ หรือแม้กระทั่งแกงอ่อมปลาแซลมอนที่เพิ่มความทันสมัยและแปลกใหม่ให้กับเมนูนี้ ทุกสูตรได้รับการปรุงแต่งอย่างลงตัวเพื่อให้ได้แกงอ่อมที่อร่อยกลมกล่อม หอมกรุ่นจากเครื่องสมุนไพรในแบบฉบับของชาวอีสานแท้ๆ รับรองว่าทุกเมนูสามารถทำเองได้ที่บ้านไม่ยากเลยค่ะ
1. แกงอ่อมหมู
แกงอ่อมหมูเป็นเมนูพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมจากสมุนไพรต่างๆ เข้ากันได้ดีกับเนื้อหมูนุ่มๆ แกงอ่อมหมูนี้สามารถทำได้ง่าย วัตถุดิบหาได้ทั่วไป เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลองทำอาหารอีสานดั้งเดิมค่ะ

วัตถุดิบ
- เนื้อหมู (สันคอหรือสันนอก) หั่นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
- เนื้อส่วนนี้จะนุ่มและมีมันแทรกนิดๆ ทำให้แกงมีรสชาติกลมกล่อม
- ผักชีลาว 1 กำมือ (หั่นท่อน)
- ผักชีลาวให้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และช่วยเพิ่มสีสันให้น่ากิน
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- ใบแมงลักมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อใส่ลงไปในแกงจะทำให้น้ำแกงหอมมากขึ้น
- ต้นหอม 2-3 ต้น (หั่นท่อน)
- พริกขี้หนู 5-7 เม็ด (หรือปรับตามความชอบ)
- ข่า หั่นแว่นบาง 2-3 แว่น
- ตะไคร้ 1 ต้น (หั่นท่อนแล้วทุบ)
- ใบมะกรูด 3-4 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นใหญ่)
- น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ปรับได้ตามชอบ)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรับรสตามชอบ)
- เกลือ 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง
- เริ่มจากโขลกเครื่องแกงที่ใช้ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันให้ละเอียด การโขลกจะช่วยให้กลิ่นสมุนไพรออกมาและรสชาติเข้าถึงเนื้อหมูได้ดีกว่า
-
ผัดเครื่องแกง
- ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) แล้วนำเครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนเริ่มหอม การผัดน้ำพริกแกงช่วยให้น้ำแกงมีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมแรงขึ้น
-
ใส่เนื้อหมูลงไปผัด
- ใส่เนื้อหมูที่เตรียมไว้ลงไปผัดกับเครื่องแกงจนหมูเริ่มสุกเล็กน้อย การผัดนี้จะช่วยให้เนื้อหมูดูดซับกลิ่นและรสชาติของเครื่องแกงได้ดียิ่งขึ้น
-
เติมน้ำและปรุงรส
- ใส่น้ำลงไปพอให้ท่วมหมู ใช้ไฟปานกลางแล้วรอจนน้ำเริ่มเดือด เติมน้ำปลาร้าและเกลือลงไป คนให้เข้ากัน แล้วลดไฟให้ต่ำ เคี่ยวเนื้อหมูให้เริ่มนุ่ม โดยปล่อยให้ส่วนผสมและรสชาติเข้ากันดี
-
ใส่ผักสดต่างๆ
- เมื่อหมูเริ่มนุ่ม ใส่ผักชีลาว ต้นหอม และใบแมงลักลงไป คนเบาๆ ให้ผักสุกแต่ยังคงความสดกรอบและกลิ่นหอมไว้
-
ปรุงรสเพิ่มเติม
- เติมน้ำปลาตามชอบ หากต้องการรสเผ็ดเพิ่มเติม สามารถใส่พริกขี้หนูสดเพิ่มเติมได้ ชิมรสชาติตามความชอบ
-
เสิร์ฟ
- ตักแกงอ่อมหมูร้อนๆ ใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อนๆ เป็นเมนูอีสานที่อร่อยและกลิ่นหอมจากสมุนไพร ทำให้อาหารมื้อนี้สมบูรณ์แบบ
เคล็ดลับการทำให้อร่อย
- การเลือกเนื้อหมู: ควรเลือกใช้สันคอหมูหรือส่วนที่มีมันแทรกเล็กน้อย จะทำให้แกงมีรสชาติกลมกล่อมและเนื้อนุ่ม
- ความสดของสมุนไพร: ใช้สมุนไพรสดๆ อย่างตะไคร้ ใบมะกรูด และใบแมงลัก จะทำให้น้ำแกงมีกลิ่นหอมสดชื่น
- การเติมน้ำปลาร้า: ควรใช้ปลาร้าที่ต้มสุกและสะอาด ปลาร้าคุณภาพดีจะทำให้แกงมีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม ไม่ฉุนเกินไป
แกงอ่อมหมูนี้เหมาะกับทุกโอกาส ไม่ว่าจะทำทานเป็นมื้ออาหารปกติหรืองานเลี้ยง ก็จะช่วยให้มื้ออาหารนั้นกลายเป็นมื้อที่พิเศษและอิ่มอร่อยค่ะ
2. แกงอ่อมไก่
แกงอ่อมไก่เป็นเมนูพื้นบ้านที่สามารถทำได้ง่ายและมีรสชาติเข้มข้นหอมกรุ่นจากสมุนไพรไทย มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมแบบธรรมชาติจากเนื้อไก่และผักสด เมนูนี้เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวและยังเต็มไปด้วยสารอาหารจากสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ

วัตถุดิบ
- เนื้อไก่ (ส่วนสะโพกหรือน่องหั่นชิ้น) 300 กรัม
- เนื้อส่วนนี้จะนุ่มและชุ่มฉ่ำ เหมาะสำหรับแกงอ่อม
- มะเขือพวง 50 กรัม
- เพิ่มความกรอบเล็กน้อยและรสขมนิดๆ ให้กับแกง
- ผักชีลาว 1 กำมือ (หั่นท่อน)
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- ต้นหอม 2-3 ต้น (หั่นท่อน)
- พริกขี้หนู 7-10 เม็ด (ตามความเผ็ดที่ต้องการ)
- ข่า หั่นแว่นบาง 2-3 แว่น
- ตะไคร้ 1 ต้น (หั่นท่อนและทุบเล็กน้อย)
- ใบมะกรูด 3 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นใหญ่)
- น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ปรับรสตามความชอบ)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรุงรสตามชอบ)
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง
- โขลกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูให้ละเอียดเข้ากัน การโขลกสมุนไพรจะช่วยปล่อยกลิ่นและน้ำมันหอมระเหยออกมา ทำให้น้ำแกงหอมยิ่งขึ้น
-
ผัดเครื่องแกง
- ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) เมื่อน้ำมันร้อน นำเครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนเริ่มหอม การผัดนี้ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติและกลิ่นสมุนไพร
-
ใส่เนื้อไก่
- ใส่เนื้อไก่ที่เตรียมไว้ลงไปผัดกับเครื่องแกง จนเนื้อไก่เริ่มสุกเล็กน้อย การผัดนี้จะช่วยให้รสชาติของเครื่องแกงซึมเข้าเนื้อไก่ ทำให้น้ำแกงกลมกล่อมยิ่งขึ้น
-
เติมน้ำและปรุงรส
- เติมน้ำเปล่าลงไปให้ท่วมเนื้อไก่ ใช้ไฟปานกลางรอจนเดือด จากนั้นใส่น้ำปลาร้าและเกลือลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
-
ใส่มะเขือพวง
- ใส่มะเขือพวงลงไป คนให้เข้ากัน แล้วต้มต่อให้มะเขือพวงสุกและเนื้อไก่เริ่มนุ่ม มะเขือพวงจะเพิ่มความกรอบและรสขมนิดๆ ให้กับแกง เพิ่มความหลากหลายของรสชาติ
-
ใส่ผักสด
- ใส่ผักชีลาว ต้นหอม และใบแมงลักลงไป คนให้เข้ากัน เบาไฟลงเล็กน้อยและปล่อยให้ผักพอสุก ยังคงความกรอบและหอมไว้
-
ปรุงรสเพิ่มเติม
- เติมน้ำปลาเล็กน้อยหากต้องการ ปรับรสชาติให้กลมกล่อมตามชอบ และสามารถใส่พริกขี้หนูสดเพิ่มความเผ็ดตามชอบได้อีก
-
เสิร์ฟ
- ตักแกงอ่อมไก่ใส่ชามเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวยหรือข้าวเหนียว อร่อยกลมกล่อมด้วยรสชาติจากเนื้อไก่และผักสมุนไพร
เคล็ดลับการทำให้อร่อย
- การเลือกเนื้อไก่: ใช้ส่วนสะโพกหรือน่องจะทำให้แกงมีเนื้อไก่ที่นุ่มและรสชาติอร่อย
- การใส่สมุนไพรสด: สมุนไพรเช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบแมงลักควรใช้ของสดๆ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่ชัดเจน
- การปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า: น้ำปลาร้าเป็นตัวช่วยสำคัญในแกงอ่อม ช่วยให้รสชาติกลมกล่อมและเพิ่มความหอม แต่ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ
แกงอ่อมไก่เมนูนี้ง่ายและรวดเร็ว มีกลิ่นหอมจากสมุนไพรไทยและรสชาติกลมกล่อม รับรองว่าอร่อยและดีต่อสุขภาพค่ะ
3. แกงอ่อมปลาช่อน
แกงอ่อมปลาช่อนเป็นเมนูพื้นบ้านอีกหนึ่งเมนูที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมจากเนื้อปลาช่อนนุ่มๆ ที่เข้ากันได้ดีกับสมุนไพรไทยและผักสด ทำให้แกงอ่อมปลาช่อนมีรสชาติที่หอมกรุ่น อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว

วัตถุดิบ
- ปลาช่อน หั่นชิ้นพอดีคำ 1 ตัว (ประมาณ 300 กรัม)
- เนื้อปลาช่อนจะนุ่มและหวานธรรมชาติ เหมาะกับการทำแกงอ่อมอย่างมาก
- ผักชีลาว 1 กำมือ (หั่นท่อน)
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- ต้นหอม 2-3 ต้น (หั่นท่อน)
- พริกขี้หนู 5-10 เม็ด (ปรับความเผ็ดตามชอบ)
- ข่า หั่นแว่นบาง 2-3 แว่น
- ตะไคร้ 1 ต้น (หั่นท่อนและทุบเล็กน้อย)
- ใบมะกรูด 3 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นใหญ่)
- น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (หรือปรับตามความชอบ)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรุงรสตามชอบ)
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง
- เริ่มจากโขลกสมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันจนละเอียด เพื่อดึงกลิ่นและรสชาติของสมุนไพรออกมา การโขลกสมุนไพรจะทำให้แกงมีกลิ่นหอมเข้มข้น
-
ผัดเครื่องแกง
- ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนเริ่มหอม การผัดจะช่วยให้กลิ่นของสมุนไพรชัดเจนยิ่งขึ้น
-
ใส่ปลาช่อน
- นำปลาช่อนที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไปผัดเบาๆ กับเครื่องแกง ผัดให้เนื้อปลาพอสุกเพื่อให้ปลาช่อนดูดซับรสชาติเครื่องแกงได้ดีและไม่มีกลิ่นคาว
-
เติมน้ำและปรุงรส
- ใส่น้ำเปล่าลงไปให้พอท่วมเนื้อปลา ใช้ไฟปานกลาง แล้วรอจนน้ำเริ่มเดือด ใส่น้ำปลาร้าและเกลือลงไป คนให้เข้ากันเบาๆ การปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าช่วยให้แกงอ่อมมีรสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอม
-
ใส่ผักสดต่างๆ
- ใส่ผักชีลาว ต้นหอม และใบแมงลักลงไปในน้ำแกง แล้วต้มต่อให้ผักสุกพอดี ผักจะยังคงกรอบและมีสีสันสวยงาม ทำให้แกงน่ากินยิ่งขึ้น
-
ปรุงรสเพิ่มเติม
- เติมน้ำปลาเล็กน้อยหากต้องการ ปรับรสชาติให้ได้ตามชอบ และสามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดเพื่อความเผ็ดที่มากขึ้นได้อีก
-
เสิร์ฟ
- ตักแกงอ่อมปลาช่อนใส่ชามเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียว อร่อยด้วยรสชาติของเนื้อปลาช่อนนุ่มๆ และกลิ่นหอมจากสมุนไพรไทย
เคล็ดลับการทำให้อร่อย
- เลือกปลาช่อนสด: ปลาช่อนสดๆ จะให้เนื้อนุ่มหวาน และไม่มีความคาว หากได้ปลาที่มีคุณภาพดี แกงอ่อมจะมีรสชาติที่อร่อยมากขึ้น
- การโขลกสมุนไพรสด: สมุนไพรเช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนู ควรโขลกสดๆ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมและน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพรออกมาเต็มที่
- การใส่น้ำปลาร้า: น้ำปลาร้าที่ต้มสุกจะให้กลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อม ควรเลือกน้ำปลาร้าคุณภาพดีเพื่อให้แกงมีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น
แกงอ่อมปลาช่อนเป็นเมนูที่ทำง่าย รสชาติกลมกล่อมและกลิ่นหอมจากสมุนไพรอีสานแท้ๆ เหมาะสำหรับทุกโอกาสและอิ่มอร่อยกับครอบครัวค่ะ
4. แกงอ่อมเนื้อ
แกงอ่อมเนื้อเป็นเมนูที่มีรสชาติกลมกล่อม หอมเครื่องสมุนไพรไทยที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อวัว เนื้อสัตว์ชนิดนี้จะมีกลิ่นและรสชาติเข้มข้น ทำให้แกงอ่อมเนื้อมีความเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นอาหารที่มีความดั้งเดิมและอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเนื้อวัวและรสชาติแบบไทยๆ ค่ะ

วัตถุดิบ
- เนื้อวัว (เช่น ส่วนสะโพกหรือเนื้อสันนอก หั่นชิ้นพอดีคำ) 300 กรัม
- ใช้เนื้อส่วนที่นุ่มจะทำให้แกงมีรสชาติอร่อยและเนื้อไม่นุ่มจนเกินไป
- ผักชีลาว 1 กำมือ (หั่นท่อน)
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- ต้นหอม 2-3 ต้น (หั่นท่อน)
- พริกขี้หนู 7-10 เม็ด (ปรับความเผ็ดตามชอบ)
- ข่า หั่นแว่นบาง 2-3 แว่น
- ตะไคร้ 1 ต้น (หั่นท่อนและทุบเล็กน้อย)
- ใบมะกรูด 3 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นใหญ่)
- น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (ปรับรสตามความชอบ)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรุงรสตามชอบ)
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง
- โขลกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูให้ละเอียด เครื่องแกงนี้จะเป็นหัวใจหลักที่ให้รสชาติและกลิ่นหอมในแกงอ่อม
-
ผัดเครื่องแกง
- ตั้งกระทะหรือหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) แล้วนำเครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนเริ่มหอม การผัดจะช่วยเพิ่มความหอมของสมุนไพรและทำให้น้ำแกงมีรสชาติที่เข้มข้นขึ้น
-
ใส่เนื้อวัวลงไปผัด
- ใส่เนื้อวัวที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำลงไปผัดกับเครื่องแกงให้พอเริ่มสุก การผัดนี้จะช่วยให้รสชาติของเครื่องแกงซึมเข้าเนื้อวัว ทำให้น้ำแกงมีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น
-
เติมน้ำและปรุงรส
- เติมน้ำเปล่าลงไปให้พอท่วมเนื้อ ใช้ไฟปานกลาง รอจนน้ำเริ่มเดือด ใส่น้ำปลาร้าและเกลือ แล้วเคี่ยวต่อให้เนื้อเริ่มนุ่ม
-
ใส่ผักสดต่างๆ
- เมื่อเนื้อเริ่มนุ่ม ใส่ผักชีลาว ต้นหอม และใบแมงลักลงไป คนให้เข้ากันแล้วต้มต่อให้ผักสุกพอดี โดยไม่ต้องปล่อยให้นิ่มเกินไป
-
ปรุงรสเพิ่มเติม
- เติมน้ำปลาตามความชอบ ชิมรสให้ได้ตามที่ต้องการ สามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดเพื่อความเผ็ดที่เข้มข้นขึ้น
-
เสิร์ฟ
- ตักแกงอ่อมเนื้อใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวยหรือข้าวเหนียว อร่อยเต็มรสชาติด้วยเนื้อวัวนุ่มและกลิ่นหอมของสมุนไพร
เคล็ดลับการทำให้อร่อย
- การเลือกเนื้อวัว: ใช้เนื้อส่วนที่มีความนุ่ม เช่น เนื้อสะโพกหรือเนื้อสันนอก จะทำให้แกงมีเนื้อสัมผัสที่ดี
- ความสดของสมุนไพร: สมุนไพรสดๆ อย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และใบแมงลักช่วยให้แกงมีกลิ่นหอมสดชื่น
- การปรุงด้วยน้ำปลาร้า: น้ำปลาร้าควรเลือกใช้ปลาร้าที่สะอาดและมีคุณภาพดี จะช่วยเพิ่มรสชาติกลมกล่อมและไม่ฉุนเกินไป
แกงอ่อมเนื้อเป็นเมนูที่เต็มไปด้วยรสชาติของเนื้อวัวและสมุนไพรไทย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารอีสาน รับรองว่าอร่อยและกลมกล่อมแบบต้นตำรับค่ะ
5. แกงอ่อมปลาแซลมอน
แกงอ่อมปลาแซลมอนเป็นเมนูที่ผสมผสานความอร่อยแบบไทยเข้ากับความหอมมันของปลาแซลมอน ทำให้แกงอ่อมมีรสชาติใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เนื้อปลาแซลมอนให้รสสัมผัสที่นุ่มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อปรุงด้วยสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้ ข่า และใบแมงลัก กลายเป็นเมนูที่ทั้งอร่อยและมีคุณค่าทางอาหาร เหมาะสำหรับคนที่อยากลองความแปลกใหม่ในเมนูแกงอ่อมค่ะ

วัตถุดิบ
- ปลาแซลมอน หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 200-300 กรัม
- เนื้อปลาแซลมอนจะนุ่มและมีมันที่ช่วยเพิ่มความหอมให้กับแกง
- ผักชีลาว 1 กำมือ (หั่นท่อน)
- ใบแมงลัก 1 กำมือ
- ต้นหอม 2-3 ต้น (หั่นท่อน)
- พริกขี้หนู 5-10 เม็ด (ตามความเผ็ดที่ต้องการ)
- ข่า หั่นแว่นบาง 2-3 แว่น
- ตะไคร้ 1 ต้น (หั่นท่อนและทุบเล็กน้อย)
- ใบมะกรูด 3 ใบ (ฉีกเป็นชิ้นใหญ่)
- น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ (หรือปรับตามความชอบ)
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ (ปรุงรสตามชอบ)
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
-
เตรียมเครื่องแกง
- โขลกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกขี้หนูเข้าด้วยกันจนละเอียด สมุนไพรเหล่านี้จะช่วยลดกลิ่นคาวของปลาแซลมอนและเพิ่มความหอมให้กับแกง
-
ผัดเครื่องแกง
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) แล้วนำเครื่องแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนเริ่มหอม กลิ่นหอมจากการผัดเครื่องแกงนี้จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้แกงอ่อม
-
ใส่ปลาแซลมอน
- นำปลาแซลมอนที่หั่นชิ้นลงไปผัดเบาๆ กับเครื่องแกง พอเนื้อปลาผิวนอกเริ่มตึงตัวเล็กน้อย จะช่วยให้ปลาดูดซับรสชาติเครื่องแกงและไม่เละในขั้นตอนต่อไป
-
เติมน้ำและปรุงรส
- ใส่น้ำเปล่าลงไปให้ท่วมเนื้อปลา ใช้ไฟปานกลาง รอให้น้ำเริ่มเดือด ใส่น้ำปลาร้าและเกลือ คนให้เข้ากันเบาๆ
-
ใส่ผักสดต่างๆ
- ใส่ผักชีลาว ต้นหอม และใบแมงลักลงไป คนให้เข้ากันแล้วปล่อยให้ผักสุกพอดี ผักจะยังคงความกรอบและมีสีเขียวสด ทำให้แกงดูน่ารับประทาน
-
ปรุงรสเพิ่มเติม
- ชิมรสชาติแล้วเติมน้ำปลาเล็กน้อยถ้าต้องการ สามารถเพิ่มพริกขี้หนูสดลงไปเพื่อเพิ่มความเผ็ดตามชอบได้
-
เสิร์ฟ
- ตักแกงอ่อมปลาแซลมอนใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมข้าวสวยหรือข้าวเหนียว เนื้อปลาแซลมอนจะนุ่มหอม มันจากปลาผสมกับรสชาติเข้มข้นของเครื่องแกง
เคล็ดลับการทำให้อร่อย
- การเลือกปลาแซลมอน: ใช้ปลาแซลมอนสดและมีสีสันสดใส เนื้อปลาแซลมอนจะนุ่มและมัน ช่วยให้แกงอ่อมมีรสชาติหอมมันมากขึ้น
- การผัดเครื่องแกง: การผัดเครื่องแกงช่วยให้กลิ่นของสมุนไพรซึมเข้าเนื้อปลาและลดกลิ่นคาวได้ดี
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า: น้ำปลาร้าช่วยเพิ่มรสชาติกลมกล่อม ควรใช้น้ำปลาร้าที่สะอาดและมีคุณภาพดีเพื่อให้แกงไม่มีกลิ่นแรงเกินไป
แกงอ่อมปลาแซลมอนเป็นเมนูที่ผสมผสานความอร่อยแบบไทยและตะวันตกได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการลองรสชาติใหม่ๆ และยังคงคุณค่าทางอาหารจากสมุนไพรและปลาแซลมอนค่ะ
การแปรรูปอาหารทะเลเป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อเพิ่มมูลค่าอาหารทะเลและยืดอายุการเก็บรักษา การใช้เครื่องจักรแปรรูปอาหารทะเลจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในอุตสาหกรรมอาหารทะเล นี่คือรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องจักรแปรรูปอาหารทะเลที่ใช้บ่อยในอุตสาหกรรม