ข้าวเกรียบกุ้ง
ข้าวเกรียบกุ้ง เป็นหนึ่งในขนมขบเคี้ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความกรอบอร่อยและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของกุ้ง สูตรนี้จะอธิบายทุกขั้นตอนอย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถทำข้าวเกรียบกุ้งโฮมเมดได้อย่างสมบูรณ์แบบค่ะ
วัตถุดิบ
- กุ้งสด 500 กรัม (ควรเลือกกุ้งที่สดใหม่และมีขนาดกลาง)
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง (ใช้เพื่อช่วยในการนวดแป้ง)
ขั้นตอนการทำ
1. เตรียมกุ้ง
- ล้างกุ้งให้สะอาด โดยใช้เกลือเล็กน้อยขัดเพื่อลดกลิ่นคาว
- แกะเปลือกและดึงเส้นดำที่หลังออกจนหมด
- สับกุ้งหยาบๆ ก่อนนำไปปั่นหรือโขลกจนละเอียด
2. ผสมแป้งและส่วนผสมทั้งหมด
- ในชามผสมขนาดใหญ่ ใส่แป้งมันสำปะหลัง กุ้งบด เกลือ และพริกไทย
- ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไปทีละน้อย ขณะเดียวกันก็นวดส่วนผสมจนได้เนื้อแป้งที่เนียนและสามารถปั้นได้ (เนื้อแป้งควรมีความยืดหยุ่นและไม่ติดมือ)
3. ปั้นแป้ง
- แบ่งแป้งออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการปั้น
- ปั้นแป้งให้เป็นแท่งยาว รูปร่างคล้ายกระบอก ความหนาประมาณ 3-4 เซนติเมตร เพื่อให้สุกทั่วถึงขณะนึ่ง
4. นึ่งแป้ง
- นำแป้งที่ปั้นไว้เรียงใส่ในซึ้งหรือภาชนะสำหรับนึ่ง (ทาน้ำมันบางๆ ที่ถาดเพื่อไม่ให้ติด)
- นึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 30-40 นาที หรือจนแป้งสุก (สังเกตได้ว่าแป้งจะมีลักษณะโปร่งและแข็งตัวเล็กน้อย)
- เมื่อสุกแล้ว ให้นำแป้งออกมาพักไว้ให้เย็นสนิทก่อนนำไปหั่น
5. หั่นแป้งและตากแดด
- ใช้มีดคมๆ หั่นแป้งที่นึ่งสุกแล้วให้เป็นแผ่นบางๆ ความหนาประมาณ 1-2 มิลลิเมตร (หั่นบางเท่าที่ทำได้ เพื่อให้ทอดออกมาฟูกรอบ)
- นำแผ่นข้าวเกรียบไปวางบนกระดาษรองหรือถาดสำหรับตากแดด
- ตากแดดจัด 1-2 วันจนแผ่นข้าวเกรียบแห้งสนิท (ควรกลับด้านแผ่นข้าวเกรียบหลังตากได้ประมาณครึ่งวัน เพื่อให้แห้งทั่วถึง)
6. ทอดข้าวเกรียบ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน (น้ำมันควรมีปริมาณมากพอสำหรับทอดแบบลึก)
- ทดลองทอดข้าวเกรียบ 1 แผ่นก่อน หากแผ่นข้าวเกรียบฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว แสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่
- ทอดข้าวเกรียบทีละน้อย (อย่าใส่เยอะเกินไป เพราะจะทำให้แผ่นข้าวเกรียบไม่ฟู)
- ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
เคล็ดลับ
- การเลือกกุ้งที่สด จะช่วยให้ข้าวเกรียบมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีกว่า
- หากไม่มีแดดแรง สามารถใช้เตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 50-60 องศาเซลเซียสในการอบแห้งแทนการตากแดด
- ควรทอดในน้ำมันร้อนจัดและใช้ไฟกลาง เพื่อให้ข้าวเกรียบฟูกรอบเร็วและไม่อมน้ำมัน
ข้าวเกรียบมันม่วง
ข้าวเกรียบมันม่วง เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ ด้วยความหอมหวานจากมันม่วงธรรมชาติ และสีสันสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาขนมขบเคี้ยวที่ทำง่าย ไม่มีวัตถุกันเสีย และสามารถปรับแต่งรสชาติได้ตามความชอบค่ะ
วัตถุดิบ
- มันม่วงนึ่งสุก 500 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 1 1/2 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนชา
- งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มกลิ่นหอมและคุณค่าทางอาหาร)
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย (สำหรับช่วยนวดแป้ง ถ้าจำเป็น)
ขั้นตอนการทำ
1. เตรียมมันม่วง
- ล้างมันม่วงให้สะอาดและปอกเปลือก
- นึ่งมันม่วงในหม้อด้วยไฟกลางประมาณ 20-30 นาที หรือจนมันม่วงสุกนิ่ม (ทดสอบโดยใช้ส้อมจิ้ม หากเนื้อนิ่มแสดงว่าสุกแล้ว)
- บดมันม่วงให้ละเอียดด้วยเครื่องบดหรือที่บด
2. ผสมส่วนผสมทั้งหมด
- ในชามผสม ใส่มันม่วงบด แป้งมันสำปะหลัง เกลือ และงาดำ
- นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อยหากแป้งแห้งเกินไป จนได้แป้งเนื้อเนียนที่สามารถปั้นได้ (ไม่เหลวหรือแห้งจนแตก)
3. ปั้นแป้ง
- แบ่งแป้งที่นวดไว้เป็นก้อนเล็กๆ แล้วปั้นให้เป็นแท่งยาวคล้ายกระบอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-4 เซนติเมตร
- วางแป้งบนถาดที่ทาน้ำมันบางๆ เพื่อป้องกันการติด
4. นึ่งแป้ง
- นำแป้งที่ปั้นไว้ไปนึ่งในซึ้งด้วยไฟกลางประมาณ 30 นาที หรือจนแป้งสุก (เนื้อแป้งจะมีความโปร่งเล็กน้อย)
- ยกออกจากซึ้งและพักไว้ให้เย็นสนิท
5. หั่นและตากแดด
- ใช้มีดคมๆ หั่นแป้งที่เย็นแล้วให้เป็นแผ่นบางๆ (ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร)
- เรียงแผ่นข้าวเกรียบบนถาดหรือกระดาษรองสำหรับตากแดด
- ตากแดดจัด 1-2 วันจนแผ่นข้าวเกรียบแห้งสนิท (กลับด้านแผ่นข้าวเกรียบหลังตากประมาณครึ่งวัน เพื่อให้แห้งทั่วถึง)
6. ทอดข้าวเกรียบ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน ใช้ไฟกลางถึงแรง
- ทดสอบด้วยการใส่แผ่นข้าวเกรียบ 1 ชิ้น หากฟูขึ้นทันทีแสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่
- ทอดข้าวเกรียบทีละน้อย อย่าใส่แน่นกระทะ เพราะจะทำให้ทอดไม่สม่ำเสมอ
- ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
เคล็ดลับ
- การเลือกกุ้งที่สด จะช่วยให้ข้าวเกรียบมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีกว่า
- หากไม่มีแดดแรง สามารถใช้เตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 50-60 องศาเซลเซียสในการอบแห้งแทนการตากแดด
- ควรทอดในน้ำมันร้อนจัดและใช้ไฟกลาง เพื่อให้ข้าวเกรียบฟูกรอบเร็วและไม่อมน้ำมัน
ข้าวเกรียบปลา
ข้าวเกรียบปลา เป็นขนมขบเคี้ยวที่ได้รับความนิยมในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำจืดหรือแหล่งประมง สูตรนี้ใช้เนื้อปลาสดเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้ได้รสชาติหอมของปลาแท้ๆ พร้อมทั้งสามารถปรับรสชาติได้ตามใจชอบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทำขนมเองหรือมองหาอาหารที่สะอาดและปราศจากสารกันเสียค่ะ
วัตถุดิบ
- เนื้อปลาสด (ปลาน้ำจืดหรือปลาทะเล เช่น ปลานิล ปลาทู ปลาตะเพียน) 500 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มกลิ่นหอม)
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย (สำหรับช่วยนวดแป้ง)
ขั้นตอนการทำ
1. เตรียมเนื้อปลา
- ล้างปลาสดให้สะอาด แกะก้างและหนังออกจนเหลือเฉพาะเนื้อ
- หากใช้ปลาน้ำจืด ให้นำไปลวกในน้ำเดือดเพื่อกำจัดกลิ่นคาวก่อน
- บดเนื้อปลาด้วยเครื่องบดหรือโขลกในครกจนเนื้อเนียนละเอียด
2. ผสมส่วนผสมทั้งหมด
- ใส่เนื้อปลาบดลงในชามผสมขนาดใหญ่
- เติมแป้งมันสำปะหลัง เกลือ พริกไทยป่น และกระเทียมสับ
- ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย ขณะเดียวกันก็ใช้มือหรือไม้พาย นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนได้เนื้อแป้งที่เนียนและไม่ติดมือ
3. ปั้นแป้ง
- แบ่งแป้งที่นวดเสร็จแล้วเป็นก้อนเล็กๆ
- ปั้นแป้งให้เป็นแท่งยาวคล้ายกระบอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-4 เซนติเมตร
4. นึ่งแป้ง
- นำแป้งที่ปั้นไว้เรียงลงในถาดที่ทาน้ำมันบางๆ เพื่อป้องกันการติด
- นึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 30-40 นาที จนแป้งสุก (สังเกตว่าตัวแป้งจะโปร่งเล็กน้อยเมื่อสุก)
- ยกออกจากหม้อนึ่งและพักไว้ให้เย็นสนิท
5. หั่นและตากแดด
- ใช้มีดคมๆ หั่นแป้งที่เย็นแล้วให้เป็นแผ่นบางๆ ขนาดประมาณ 1-2 มิลลิเมตร
- เรียงแผ่นข้าวเกรียบบนถาดหรือกระดาษรองสำหรับตากแดด
- ตากแดดจัด 1-2 วันจนแผ่นข้าวเกรียบแห้งสนิท (กลับด้านหลังตากประมาณครึ่งวัน เพื่อให้แห้งทั่วถึง)
6. ทอดข้าวเกรียบ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน ใช้ไฟกลางถึงแรง
- ทดสอบด้วยการใส่แผ่นข้าวเกรียบ 1 ชิ้น หากฟูขึ้นทันทีแสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่
- ทอดข้าวเกรียบทีละน้อย เพื่อให้ฟูสวยและไม่แออัดในกระทะ
- ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
เคล็ดลับ
- เนื้อปลา: หากใช้ปลาทะเล เช่น ปลาทู ควรลวกในน้ำร้อนก่อนเพื่อช่วยลดกลิ่นคาว
- การตากแดด: หากไม่มีแดดแรง สามารถใช้เตาอบที่อุณหภูมิ 50-60 องศาเซลเซียสอบแผ่นข้าวเกรียบแทน
- การปรุงรส: สามารถเพิ่มผงปรุงรส หรือน้ำตาลเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นขึ้น
ข้าวเกรียบฟักทอง
ข้าวเกรียบฟักทอง เป็นขนมกรอบที่อร่อย มีประโยชน์จากฟักทองที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ เบต้าแคโรทีน และไฟเบอร์ เหมาะสำหรับคนที่มองหาขนมขบเคี้ยวทำเองง่ายๆ และดีต่อสุขภาพ สูตรนี้ใช้ฟักทองเป็นส่วนผสมหลัก พร้อมกับการปรุงรสแบบเบาๆ เพื่อคงรสชาติธรรมชาติของฟักทองค่ะ
วัตถุดิบ
- ฟักทองนึ่งสุก 500 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้ หากต้องการรสชาติธรรมชาติ)
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย (สำหรับช่วยนวดแป้ง)
- งาดำ 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มกลิ่นหอมและคุณค่าทางอาหาร)
ขั้นตอนการทำ
1. เตรียมฟักทอง
- ล้างฟักทองให้สะอาด ปอกเปลือกและเอาเมล็ดออก
- หั่นฟักทองเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปนึ่งในหม้อด้วยไฟกลางประมาณ 20-30 นาที หรือจนฟักทองสุกนิ่ม
- บดฟักทองให้ละเอียดด้วยเครื่องบดหรือที่บด
2. ผสมส่วนผสมทั้งหมด
- ในชามผสม ใส่ฟักทองบด แป้งมันสำปะหลัง เกลือ น้ำตาล และงาดำ
- ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย ขณะนวดส่วนผสมให้เข้ากัน จนได้เนื้อแป้งที่เนียนและสามารถปั้นได้ (ไม่แห้งหรือเหลวจนเกินไป)
3. ปั้นแป้ง
- แบ่งแป้งที่ผสมไว้เป็นก้อนเล็กๆ
- ปั้นแป้งให้เป็นแท่งยาวคล้ายกระบอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-4 เซนติเมตร
4. นึ่งแป้ง
- นำแป้งที่ปั้นไว้เรียงลงในถาดที่ทาน้ำมันบางๆ เพื่อป้องกันการติด
- นึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 30 นาที หรือจนแป้งสุก (เนื้อแป้งจะโปร่งเล็กน้อยเมื่อสุก)
- ยกออกจากหม้อนึ่งและพักไว้ให้เย็นสนิท
5. หั่นและตากแดด
- ใช้มีดคมๆ หั่นแป้งที่เย็นแล้วให้เป็นแผ่นบางๆ ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร
- เรียงแผ่นข้าวเกรียบบนถาดหรือกระดาษรองสำหรับตากแดด
- ตากแดดจัด 1-2 วันจนแผ่นข้าวเกรียบแห้งสนิท (กลับด้านแผ่นข้าวเกรียบหลังตากครึ่งวัน เพื่อให้แห้งทั่วถึง)
6. ทอดข้าวเกรียบ
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชให้ร้อน ใช้ไฟกลางถึงแรง
- ทดลองทอดข้าวเกรียบ 1 ชิ้น หากฟูขึ้นทันทีแสดงว่าน้ำมันร้อนได้ที่
- ทอดข้าวเกรียบทีละน้อย อย่าใส่เยอะเกินไป เพราะจะทำให้ทอดไม่สม่ำเสมอ
- ตักขึ้นพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
เครื่องแยกก้างปลา
- ช่วยแยกเนื้อปลา ออกจากก้างปลา
- ตัวเครื่องทำด้วยสแตนเลส
- ไฟฟ้า 380/50/3
- มอเตอร์ 3 แรงม้า , 2200 วัตต์
- บดหรือแยกปลาได้ประมาณ 100-200 กิโล/ชม.(ขึ้นอยู่กับเนื้อปลา)
- ขนาดรูรังผึ้งที่เนื้อปลาออก 3.2 มม.
- ขนาดเครื่อง 900*750*1150 มม.
- น้ำหนักเครื่อง 200 กก.
เตาทอด
เตาทอด (Deep Fryer) คือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในการทอดอาหารโดยการจุ่มอาหารลงในน้ำมันร้อน เพื่อให้เกิดการทอดกรอบและสุกทั่วถึง การใช้เตาทอดช่วยให้สามารถควบคุมอุณหภูมิของน้ำมันได้อย่างแม่นยำ ทำให้อาหารที่ทอดออกมามีรสชาติอร่อย กรอบนอกนุ่มใน และไม่อมน้ำมันมากเกินไป
เครื่องปอกมัน,เผือก,แคลอต
- ใช้สำหรับปอกมันสำปะหลัง, ปอกเผือก, ปอกขิง, ปอกแครอท
- กำลังการผลิตสามารถปอกได้ 300-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง
- ตัวเครื่องทำด้วยสแตนเลส 304
- ไฟฟ้า 380V / 50Hz / 3PH
- มอเตอร์ 1.5 kw
- ความยาวของเครื่องแปรงขัด 1 เมตร
- ขนาดเครื่อง 1300 x 715 x 980 มม
เครื่องสับผสมอาหาร
- เครื่องสับผสมอาหาร ความจุของอ่างเก็บ 5.5 ลิตร
- ใช้เป็นเครื่องสับผสมอาหาร เครื่องปั่นพริก เครื่องบดพริก เครื่องสับกระเทียม เครื่องสับหมู เครื่องปั่นพริกแกง
- อ่างสแตนเลส (สับได้ครั้งละ 3.5 กก.)
- ภายในเครื่องสับผสมมีแกนสวมใบมี 2 ใบ เป็นสแตนเลส
- เมื่อฝาเปิดใบมีดจะหยุดหมุนอัติโนมัติ
- มี 2 สปีด 1500/3000 รอบ/นาที
- มอเตอร์ 1 แรงม้า
- ไฟฟ้า 220/50/1
- สามารถสับผสมอาหาร ประเภทผัก ,เนื้อสัตว์ทุกประเภท (ผักประมาณ 50-150 กก/ชม, เนื้อประมาณ 30-80 กก./ชม.)
- ขนาดเครื่องสับผสมอาหาร ก*ย*ส = 26.1*45*38.2 ซม.