กุนเชียง หรือ ไส้กรอกจีน เป็นวัตถุดิบที่หลายคนคุ้นเคยในครัวเรือนไทย ซึ่งได้รับอิทธิพลจากอาหารจีนและถูกปรับให้เข้ากับรสชาติแบบไทยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการกินในบ้านเรา ด้วยรสชาติหวานเค็มกลมกล่อม เนื้อสัมผัสแน่น และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ กุนเชียงจึงสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารจานด่วนที่ทำง่าย หรือเมนูที่ซับซ้อนและหรูหรามากขึ้น ความพิเศษของกุนเชียงอยู่ที่การผสมผสานรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ลงตัว ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมในทุกมื้ออาหาร ไม่ว่าคุณจะอยู่ในบ้าน ร้านอาหาร หรือในงานเทศกาลสำคัญต่างๆ
นอกจากนี้ กุนเชียงยังเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่เด็กเล็กที่ชอบรสชาติหวานนุ่ม ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบความหอมมันของเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน การเก็บรักษาง่ายและปรุงอาหารได้รวดเร็ว ทำให้กุนเชียงเป็นวัตถุดิบสามัญประจำครัวที่คนไทยเลือกใช้มาอย่างยาวนาน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเมนูอร่อยหลากหลายที่ทำจากกุนเชียง พร้อมเคล็ดลับการเตรียมและวิธีเลือกกุนเชียงคุณภาพดี เพื่อให้ทุกมื้ออาหารของคุณอร่อยและประทับใจยิ่งขึ้น

ต้นกำเนิดและประวัติศาสตร์
กุนเชียง มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว หมายถึง ไส้กรอก โดยในภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า กุ๊งเชียง เพราะคำว่า กุ๊ง แปลว่ากรอก หรือบรรจุ แต่คนไทยหลายคนชอบคิดว่ากุนเชียงคือไส้กรอกหมูแบบจีน ซึ่งที่มาของความสับสนก็เกิดจากคำว่า “กุน” มันไปตรงกับคำในกลุ่ม 12 นักษัตร ที่แปลว่า หมู ทุกคนเลยคิดว่า กุนเชียง = หมูเชียง
ซึ่งการทำไส้กรอกแบบจีนนั้น จะนิยมใช้เนื้อหมูติดมันนำมาสับหรือบดหยาบ ๆ แล้วปรุงรสเค็มหวาน จากนั้นนำไปกรอกใส่ลงในไส้หมูที่ล้างสะอาด แล้วนำไปอบหรือผึ่งแดดจนแห้ง เป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่งที่ทำให้อาหารอยู่ได้นานเป็นแรมปี
ชนิดของกุนเชียง
กุนเชียงที่เราคุ้นเคยนั้นสามารถแบ่งออกเป็นหลายชนิดตามประเภทของเนื้อสัตว์ที่ใช้และลักษณะของการปรุง เพื่อให้เหมาะกับความต้องการและรสนิยมของผู้บริโภค นี่คือชนิดของกุนเชียงที่พบได้ทั่วไป:

1. กุนเชียงหมู (Pork Chinese Sausage)
- เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำจากเนื้อหมูบดผสมกับมันหมูและเครื่องปรุงรส เช่น น้ำตาล เกลือ ซีอิ๊ว และเหล้าจีน
- มีรสชาติหวานนำ เค็มเล็กน้อย และกลิ่นหอม
- นิยมนำไปทำข้าวผัดกุนเชียง หรือยำกุนเชียง

2. กุนเชียงไก่ (Chicken Chinese Sausage)
- ทำจากเนื้อไก่แทนเนื้อหมู เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงการบริโภคหมู
- มีรสชาติคล้ายกุนเชียงหมู แต่ไขมันน้อยกว่า
- เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพหรือผู้ที่ต้องการอาหารแคลอรีต่ำ

3. กุนเชียงปลา (Fish Chinese Sausage)
- ทำจากเนื้อปลาล้วน เช่น ปลานิล ปลาช่อน หรือปลาทะเล
- มีรสชาติหวานเค็ม แต่มีเนื้อสัมผัสที่เบากว่ากุนเชียงหมู
- นิยมในกลุ่มคนที่ต้องการหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ใหญ่ หรือผู้ที่ชอบอาหารที่มีรสชาติเบาๆ
8 สูตรเมนูกุนเชียง ทำตามได้ง่ายๆ
กุนเชียง เป็นวัตถุดิบอเนกประสงค์ที่สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งอาหารจานด่วนและจานที่มีความซับซ้อน ลองมาดู 8 สูตรเมนูกุนเชียงที่ทั้งอร่อยและทำง่ายกัน!
1. กุนเชียงทอด
กุนเชียงทอดเป็นเมนูพื้นฐานที่ทำง่าย แต่อร่อยและเป็นที่โปรดปรานของหลายคน หากทอดให้ถูกวิธี กุนเชียงจะมีเนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน พร้อมรสหวานเค็มที่ลงตัว

วัตถุดิบ
- กุนเชียง 2-3 แท่ง
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1. เตรียมกุนเชียง
- ล้างกุนเชียงให้สะอาด หากเป็นกุนเชียงแท่งใหญ่ให้หั่นเฉียงบางๆ เพื่อให้สุกทั่วถึง
- หากใช้กุนเชียงแท่งเล็ก สามารถทอดทั้งแท่งได้
2. ตั้งกระทะ
- ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะให้พอท่วมชิ้นกุนเชียง
- เปิดไฟ กลาง-อ่อน เพื่อป้องกันกุนเชียงไหม้
3. ทอดกุนเชียง
- ใส่กุนเชียงลงไปทอด น้ำมันจะช่วยดึงความมันจากตัวกุนเชียงออกมา
- ทอดจนกุนเชียงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดงและมีกลิ่นหอม (ประมาณ 3-5 นาที)
- ตักขึ้นและพักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
4. เสิร์ฟ
- เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวเหนียว
- สามารถทานคู่กับไข่ดาว น้ำจิ้มซีฟู้ด หรือน้ำจิ้มแจ่วเพื่อเพิ่มรสชาติ
เคล็ดลับการทอดกุนเชียง
- ลวกก่อนทอด: หากต้องการลดน้ำมัน ให้นำกุนเชียงไปลวกในน้ำร้อนก่อนทอด วิธีนี้จะช่วยดึงน้ำมันส่วนเกินออกจากกุนเชียง
- การทอดให้ไม่แข็ง: ใช้ไฟกลาง-อ่อน เพราะไฟแรงเกินไปจะทำให้กุนเชียงกรอบและแข็งจนเกินไป
- น้ำมันน้อย: หากไม่ต้องการใช้น้ำมันเยอะ สามารถทอดในกระทะเทฟลอนได้โดยใช้น้ำมันเพียงเล็กน้อย
2. ข้าวผัดกุนเชียง
ข้าวผัดกุนเชียง เป็นเมนูยอดนิยมที่ผสมผสานความหอมหวานของกุนเชียงกับข้าวผัดรสกลมกล่อม สามารถทำง่ายๆ ได้ในเวลาไม่นาน เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร
วัตถุดิบ
- ข้าวสวย (แช่เย็น) 1 ถ้วย
- กุนเชียง 1 แท่ง (หั่นเฉียงบาง)
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมหัวใหญ่ (หั่นเต๋า) 1/4 ลูก
- แครอท (หั่นเต๋าเล็ก) 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เตรียมกุนเชียง
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำกุนเชียงที่หั่นไว้ลงไปผัดจนสุกหอมและเป็นสีแดงสวย จากนั้นตักขึ้นพักไว้
2. ผัดไข่
- ใช้น้ำมันในกระทะที่เหลือจากกุนเชียง (หรือเติมเพิ่มเล็กน้อย) ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
- ตอกไข่ไก่ลงไปในกระทะ แล้วคนเบาๆ ให้ไข่กระจายตัว
3. ผัดข้าว
- ใส่ข้าวสวยลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวคลุกข้าวกับไข่ให้เข้ากันดี
- ใส่หอมหัวใหญ่และแครอทที่เตรียมไว้ลงไปผัดจนสุก
4. ปรุงรส
- ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ผัดให้เครื่องปรุงเข้ากับข้าวจนทั่ว
5. ใส่กุนเชียงและต้นหอม
- ใส่กุนเชียงที่ผัดไว้ลงไปในกระทะ ผัดให้เข้ากัน
- ปิดท้ายด้วยการโรยต้นหอมซอย ผัดเบาๆ อีกครั้ง
6. จัดเสิร์ฟ
- ตักข้าวผัดกุนเชียงใส่จาน ตกแต่งด้วยต้นหอมหรือผักเคียง เช่น แตงกวาและมะเขือเทศ พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับ
- ใช้ข้าวเย็น: เพื่อให้ข้าวเรียงเม็ดสวยและไม่แฉะ
- กุนเชียงหอมกรอบ: ผัดกุนเชียงให้พอเหลืองกรอบก่อนนำมาผสมในข้าว
- เพิ่มผัก: สามารถใส่ผักอื่นๆ เช่น ถั่วลันเตา ข้าวโพด หรือพริกหวานเพื่อเพิ่มสีสันและสารอาหาร
3. ไข่เจียวกุนเชียง
ไข่เจียวกุนเชียง เป็นเมนูที่ทำง่าย แต่เต็มไปด้วยรสชาติที่กลมกล่อมของไข่และความหวานหอมของกุนเชียง เหมาะสำหรับทุกมื้ออาหาร

วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- กุนเชียง 1 แท่ง (หั่นบาง)
- หอมใหญ่ (ซอยบาง) 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำ
1. เตรียมส่วนผสม
- หั่นกุนเชียงเป็นชิ้นบางๆ
- ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีไข่จนเนียน จากนั้นใส่กุนเชียงและหอมใหญ่ลงไป
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาและซีอิ๊วขาว ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
2. ตั้งกระทะ
- ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะให้พอท่วมไข่ (ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ)
- เปิดไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อน
3. ทอดไข่เจียว
- เทส่วนผสมไข่ลงในกระทะ น้ำมันจะช่วยให้ไข่พองฟู
- ลดไฟลงเล็กน้อย แล้วทอดจนด้านล่างของไข่เป็นสีเหลืองทอง
- พลิกไข่กลับด้าน ทอดอีกฝั่งจนสุกเหลืองทั่วทั้งแผ่น
4. จัดเสิร์ฟ
- ตักไข่เจียวขึ้นจากกระทะ พักไว้บนกระดาษซับน้ำมัน
- หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และน้ำจิ้มซอสพริก
เคล็ดลับ
- ไข่ฟูกรอบ: ใช้น้ำมันร้อนปานกลางและตีไข่ให้มีอากาศผสมเข้าไป
- กุนเชียงหอมอร่อย: หากชอบความกรอบ สามารถนำกุนเชียงไปผัดก่อนใส่ในไข่
- เพิ่มส่วนผสม: สามารถใส่ผัก เช่น พริกหวาน ต้นหอม หรือแครอท เพื่อเพิ่มสีสันและรสชาติ
4. ผัดเปรี้ยวหวานกุนเชียง
ผัดเปรี้ยวหวานกุนเชียง เป็นเมนูที่ผสมผสานระหว่างความหวานเค็มของกุนเชียงและรสเปรี้ยวหวานของซอส ทำให้อร่อยลงตัวและเป็นที่โปรดปรานของทุกวัย
วัตถุดิบ
- กุนเชียง 1 แท่ง (หั่นเฉียงบาง)
- สับปะรด (หั่นชิ้นพอดีคำ) 1/2 ถ้วย
- มะเขือเทศ (หั่นชิ้น) 1 ลูก
- แตงกวา (หั่นแว่น) 1/2 ถ้วย
- พริกหยวกหรือพริกหวาน (สีแดง, เขียว, เหลือง) หั่นชิ้น 1/2 ถ้วย
- หอมใหญ่ (หั่นชิ้นใหญ่) 1/4 ลูก
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เตรียมกุนเชียง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย แล้วผัดกุนเชียงจนหอมและเหลืองกรอบ จากนั้นตักพักไว้
2. ผัดผัก
- ใช้น้ำมันในกระทะ ใส่กระเทียมสับลงไปผัดจนหอม
- ใส่หอมใหญ่ พริกหวาน สับปะรด แตงกวา และมะเขือเทศ ผัดให้ผักพอสุก
3. ปรุงรส
- ใส่ซอสมะเขือเทศ น้ำปลา น้ำตาล และน้ำมันหอยลงไป
- เติมน้ำเล็กน้อย (ประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ) เพื่อให้ซอสคลุกเคล้าผักได้ทั่ว
- ผัดจนซอสข้นและผักดูดซับรสชาติ
4. ใส่กุนเชียง
- ใส่กุนเชียงที่ผัดไว้ลงในกระทะ ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
5. จัดเสิร์ฟ
- ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

เคล็ดลับ
- ความเปรี้ยวหวานกลมกล่อม: หากชอบรสเปรี้ยวมากขึ้น สามารถเพิ่มน้ำมะนาวหรือซอสมะเขือเทศได้
- ผักกรอบอร่อย: ผัดผักแค่พอสุกเพื่อให้ยังคงความกรอบและสีสันสวยงาม
- เพิ่มโปรตีน: สามารถใส่ไก่หรือกุ้งร่วมกับกุนเชียงเพื่อเพิ่มความหลากหลาย
5. ยำกุนเชียง
ยำกุนเชียง เป็นเมนูรสแซ่บที่ผสมผสานระหว่างความหวานหอมของกุนเชียงและน้ำยำรสจัดจ้าน เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารรสชาติจัด พร้อมความสดชื่นจากผักและสมุนไพร

วัตถุดิบ
- กุนเชียง 2 แท่ง (หั่นเฉียงและทอดสุก)
- หอมใหญ่ (ซอยบาง) 1/4 ลูก
- มะเขือเทศ (หั่นชิ้น) 1 ลูก
- ขึ้นฉ่าย (หั่นท่อน) 1 ต้น
- พริกขี้หนู (ซอย) 5-7 เม็ด (ปรับตามความชอบ)
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- น้ำต้มสุก (เล็กน้อย)
- ถั่วลิสงคั่ว (สำหรับโรยหน้า) 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. เตรียมกุนเชียง
- หั่นกุนเชียงเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปทอดจนเหลืองหอม ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ทำน้ำยำ
- ผสมพริกขี้หนู น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายในชามผสม
- คนให้น้ำตาลละลายดี ชิมรสตามชอบ (ควรได้รสเปรี้ยว เค็ม และหวานเล็กน้อย)
3. ผสมยำ
- ใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย และกุนเชียงทอดลงในชามผสมน้ำยำ
- คลุกเคล้าเบาๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
4. จัดเสิร์ฟ
- ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่ว เสิร์ฟทันที
เคล็ดลับ
- กุนเชียงไม่อมน้ำมัน: ใช้ไฟกลางในการทอดกุนเชียง และซับน้ำมันด้วยกระดาษซับมันก่อนนำมายำ
- รสชาติกลมกล่อม: หากต้องการความเผ็ดน้อย สามารถลดพริกขี้หนูลงหรือเพิ่มน้ำตาลทรายเล็กน้อย
- เพิ่มผัก: สามารถใส่แตงกวาหรือผักอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น
6. กะเพรากุนเชียง
กะเพรากุนเชียง เป็นเมนูที่ดัดแปลงจากผัดกะเพราแบบดั้งเดิม โดยใช้กุนเชียงเป็นวัตถุดิบหลัก เพิ่มความหวานหอมและสัมผัสที่แตกต่าง ทำง่ายและเหมาะกับทุกมื้ออาหาร
วัตถุดิบ
- กุนเชียง 2 แท่ง (หั่นเฉียงบาง)
- ใบกะเพรา 1 ถ้วย
- พริกขี้หนู (ซอยหรือโขลกหยาบ) 7-10 เม็ด (ปรับตามความชอบ)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า (เล็กน้อย)
วิธีทำ
1. ผัดกุนเชียง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย แล้วนำกุนเชียงที่หั่นไว้ลงไปผัดจนเหลืองหอม ตักขึ้นพักไว้
2. ผัดพริกกระเทียม
- ใส่น้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย (ใช้กระทะเดิม)
- ใส่กระเทียมสับและพริกขี้หนูลงไปผัดจนหอม
3. ผัดรวมกัน
- ใส่กุนเชียงที่ผัดไว้ลงในกระทะ
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย
- เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้ซอสคลุกเคล้ากับกุนเชียงได้ทั่ว
4. ใส่ใบกะเพรา
- ใส่ใบกะเพราลงไป ผัดเร็วๆ ให้ใบกะเพราสุกและมีกลิ่นหอม
5. จัดเสิร์ฟ
- ตักใส่จาน เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาวฟูกรอบ

เคล็ดลับ
- กุนเชียงหอมอร่อย: ผัดกุนเชียงให้เหลืองกรอบก่อนจะช่วยเพิ่มความอร่อย
- ความแซ่บตามชอบ: เพิ่มพริกขี้หนูหรือพริกแห้งเพื่อเพิ่มรสเผ็ด
- ใบกะเพราสดใหม่: ใช้ใบกะเพราสดเพื่อกลิ่นหอมที่เด่นชัด
7. กุนเชียงผัดพริกกระเทียม
กุนเชียงผัดพริกกระเทียม เป็นเมนูง่ายๆ ที่เน้นความหอมของกระเทียมและรสเผ็ดร้อนของพริกขี้หนู ผสมกับกุนเชียงหวานหอมจนได้รสชาติที่กลมกล่อมและลงตัว

วัตถุดิบ
- กุนเชียง 2 แท่ง (หั่นเฉียงบาง)
- พริกขี้หนู (ซอยหรือโขลกหยาบ) 7-10 เม็ด (ปรับความเผ็ดได้ตามชอบ)
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพาหรือใบกะเพรา (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำ
1. เตรียมกุนเชียง
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย แล้วนำกุนเชียงที่หั่นไว้ลงไปผัดจนสุกเหลืองหอม ตักขึ้นพักไว้
2. ผัดพริกกระเทียม
- ใช้กระทะใบเดิม ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย
- ใส่กระเทียมสับและพริกขี้หนูลงไปผัดจนมีกลิ่นหอม
3. ปรุงรส
- ใส่กุนเชียงที่ผัดไว้ลงในกระทะ
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย
- ผัดให้เครื่องปรุงเคลือบกับกุนเชียงจนทั่ว
4. จัดเสิร์ฟ
- ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยใบโหระพาหรือใบกะเพราเพื่อเพิ่มความหอม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
เคล็ดลับ
- รสชาติสมดุล: ปรับปริมาณน้ำตาลและพริกขี้หนูเพื่อให้ได้รสที่ชอบ
- เพิ่มผัก: หากต้องการเพิ่มสีสันและรสชาติ สามารถใส่พริกหยวกหรือหอมใหญ่ลงไปได้
- กุนเชียงกรอบ: ผัดกุนเชียงด้วยไฟกลางเพื่อให้กรอบนอกนุ่มใน
8. ข้าวอบกุนเชียง
ข้าวอบกุนเชียง เป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมจากการอบข้าวกับกุนเชียงและส่วนผสมต่างๆ จนเข้ากันอย่างลงตัว เหมาะสำหรับมื้อพิเศษหรือทำง่ายๆ ที่บ้าน
วัตถุดิบ

เคล็ดลับ
- ข้าวหอมอร่อย: ใช้ข้าวสวยที่หุงใหม่และไม่แฉะ เพื่อให้ได้สัมผัสนุ่มกำลังดี
- กลิ่นหอมพิเศษ: น้ำมันงาช่วยเพิ่มความหอม แต่ใส่ในปริมาณเล็กน้อยเพื่อไม่ให้กลบกลิ่นอื่น
- เพิ่มโปรตีน: ใส่ไก่หรือกุ้งลงไปผัดพร้อมกับผักเพื่อเพิ่มสารอาหาร
เครื่องอัดกุนเชียงระบบไฮดรอลิก
เครื่องอัดกุนเชียงระบบไฮดรอลิก เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ระบบไฮดรอลิกในการช่วยเพิ่มแรงดันเพื่ออัดเนื้อกุนเชียงลงในไส้กรอกหรือปลอกที่เตรียมไว้ ทำให้ได้กุนเชียงที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับการผลิตในปริมาณมากและใช้งานในโรงงานหรือผู้ประกอบการขนาดเล็กถึงใหญ่
เครื่องบดเนื้อหมู
เครื่องบดเนื้อหมู ช่วยให้การบดเนื้อหมูสะดวกและรวดเร็ว สามารถปรับความละเอียดได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับการเตรียมอาหารหลากหลายประเภท เช่น หมูสับหรือไส้กรอก ทำจากวัสดุทนทาน เช่น สแตนเลส หรืออะลูมิเนียม ใช้งานง่ายและทำความสะอาดสะดวก มีทั้งแบบมือหมุนสำหรับครัวเรือนและแบบไฟฟ้าสำหรับใช้งานในปริมาณมากหรือเชิงพาณิชย์
เครื่องหั่นเนื้อเป็นเต๋า
เครื่องหั่นเนื้อเป็นเต๋า หรือ เครื่องหั่นเนื้ออัตโนมัติ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการหั่นเนื้อสัตว์ให้มีขนาดเท่า ๆ กันในรูปแบบลูกเต๋า เหมาะสำหรับการใช้งานในร้านอาหาร โรงงานผลิตอาหาร หรือครัวเรือนที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วในการเตรียมอาหาร เช่น การทำเมนูที่ต้องใช้เนื้อหมู เนื้อวัว หรือไก่ในรูปแบบสี่เหลี่ยมเต๋า